แปรงฟันถูกวิธี เสริมสุขภาพดีให้ช่องปาก

แปรงฟัน คือวิธีรักษาความสะอาดของช่องปากที่สำคัญและไม่ควรละเลย เพราะหากไม่แปรงฟันให้สะอาดอย่างสม่ำเสมอ หรือแปรงฟันผิดวิธี อาจนำไปสู่ปัญหาสุขภาพช่องปาก เช่น ฟันผุ เกิดคราบหินปูน หรือในกรณีที่ร้ายแรงอาจถึงขั้นสูญเสียฟันได้

แปรงฟัน

การแปรงฟัน ช่วยกำจัดเศษอาหารและคราบสิ่งสกปรกตามฟัน ซึ่งเกิดขึ้นจากการรวมตัวกันของเชื้อแบคทีเรียภายในช่องปาก โดยน้ำตาลหรือคาร์โบไฮเดรตที่รับประทานเข้าไปจะกลายเป็นอาหารให้กับเชื้อแบคทีเรียดังกล่าว หากไม่ทำความสะอาด เชื้อแบคทีเรียเหล่านี้จะปล่อยกรดออกมาทำลายเคลือบฟัน เมื่อนานเข้าก็ส่งผลให้เคลือบฟันเสียหายจนเกิดปัญหาฟันผุตามมา หรือหากแปรงฟันไม่สะอาด คราบแบคทีเรียที่หลงเหลืออยู่อาจเกาะแน่นจนกลายเป็นคราบหินปูนในที่สุด การแปรงฟันทุกวันอย่างถูกวิธีจึงเป็นสิ่งจำเป็นในการรักษาสุขภาพปากและฟัน

ควรแปรงฟันบ่อยแค่ไหน ?

โดยปกติ คนเราควรแปรงฟันอย่างน้อยวันละ 2 ครั้ง คือ หลังอาหารเช้า และก่อนเข้านอน แต่หากสะดวกอาจแปรงฟันหลังมื้อกลางวันหรือหลังรับประทานของหวานด้วย เพื่อช่วยลดการก่อตัวของคราบแบคทีเรีย นอกจากนี้ ในการแปรงฟันแต่ละครั้งควรใช้เวลาอย่างน้อย 2 นาทีขึ้นไป เพื่อทำความสะอาดอย่างทั่วถึงทั้งช่องปาก

วิธีเลือกแปรงสีฟันและยาสีฟันที่ถูกต้อง

อุปกรณ์สำคัญสำหรับการแปรงฟันที่ขาดไม่ได้ คือแปรงสีฟันและยาสีฟัน ซึ่งหากเลือกใช้อย่างถูกต้องและเหมาะสมจะยิ่งส่งผลดีต่อการแปรงฟันและสุขภาพช่องปาก โดยวิธีการเลือกแปรงสีฟันและยาสีฟันที่เหมาะสมกับตนเอง ทำได้ดังนี้

แปรงสีฟัน ควรเลือกที่มีขนาดพอดีกับปาก ไม่ใหญ่หรือเล็กจนเกินไป และเลือกลักษณะขนแปรงแบบนุ่มจะดีที่สุด เพราะขนแปรงที่แข็งเกินไป อาจส่งผลเสียต่อสุขภาพเหงือกและฟัน ส่วนแปรงสีฟันไฟฟ้าก็ใช้ได้เช่นกัน เนื่องจากมีประสิทธิภาพดีไม่น้อยไปกว่าแปรงสีฟันธรรมดา ผู้ใช้บางรายอาจพบว่าแปรงสีฟันไฟฟ้าช่วยทำความสะอาดได้สะดวกกว่า ทั้งนี้ ควรใช้ร่วมกับยาสีฟันที่มีส่วนผสมของฟลูออไรด์ด้วย เพื่อให้ได้ผลดียิ่งขึ้น

อย่างไรก็ตาม แปรงสีฟันมีอายุการใช้เพียง 3-4 เดือนเท่านั้น ทางที่ดีจึงควรเปลี่ยนแปรงสีฟันเป็นประจำทุก 3 เดือน หรือเมื่อเห็นว่าขนแปรงเริ่มเปลี่ยนสี หลุดร่วง งอ หรือดูสกปรก เพราะหากใช้แปรงสีฟันที่เสื่อมสภาพต่อไป อาจเสี่ยงต่อการสะสมของเชื้อแบคทีเรียมากขึ้นและไม่เป็นผลดีต่อสุขภาพช่องปาก

ทั้งนี้ การเก็บรักษาแปรงสีฟันอย่างเหมาะสม ควรเก็บไว้ในที่ที่อากาศถ่ายเทสะดวก ไม่ให้แปรงสีฟันเปียกชื้นและเกิดการเติบโตของเชื้อแบคทีเรียหรือเชื้อรา อีกทั้งห้ามใช้แปรงสีฟันร่วมกับผู้อื่น เพื่อป้องกันการติดต่อเชื้อโรคที่เป็นอันตราย

ยาสีฟัน ควรเลือกที่มีความเข้มข้นของฟลูออไรด์เหมาะสมกับช่วงวัยของผู้ใช้ สังเกตได้บนบรรจุภัณฑ์ของยาสีฟันแต่ละยี่ห้อ โดยแต่ละช่วงอายุควรใช้ยาสีฟันที่มีปริมาณฟลูออไรด์ดังต่อไปนี้

  • ผู้ใหญ่และเด็กโต ควรใช้ยาสีฟันที่มีปริมาณฟลูออไรด์อย่างน้อย 1,350 ส่วนในล้านส่วน
  • เด็กอายุ 3-6 ปี ใช้ยาสีฟันที่มีปริมาณฟลูออไรด์ 1,350 ส่วนในล้านส่วนได้ แต่ควรใช้ในปริมาณเท่าเมล็ดถั่วเขียวเท่านั้น หากเด็กไม่มีฟันผุ อาจใช้ยาสีฟันที่มีฟลูออไรด์เข้มข้นน้อยกว่านี้ แต่ไม่ควรต่ำกว่า 1,000 ส่วนในล้านส่วน
  • เด็กอายุต่ำกว่า 3 ปี ควรใช้ยาสีฟันในปริมาณเพียงเล็กน้อย โดยใช้ส่วนของหัวแปรงสีฟันป้ายยาสีฟันบาง ๆ ทั้งนี้ ไม่ควรให้เด็กเลียหรือกินยาสีฟันเล่นเด็ดขาด

ในบางกรณี ทันตแพทย์อาจแนะนำให้ใช้ยาสีฟันที่มีความเข้มข้นของฟลูออไรด์สูงขึ้น ซึ่งผู้ใช้ควรปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์อย่างเคร่งครัด เพื่อลดความเสี่ยงต่อการได้รับสารฟลูออไรด์เข้าสู่ร่างกายมากเกินไป เพราะอาจก่อให้เกิดอันตรายได้

วิธีแปรงฟันที่ถูกต้อง

นอกจากการเลือกแปรงสีฟันและยาสีฟันที่เหมาะสม การแปรงฟันอย่างถูกวิธีเป็นอีกสิ่งสำคัญที่ควรใส่ใจ โดยคำนึงถึงอาหารที่บริโภคเข้าไปเป็นอันดับแรก หากเพิ่งรับประทานอาหารหรือดื่มเครื่องดื่มที่มีกรด ควรหลีกเลี่ยงการแปรงฟันทันที เพราะกรดมีฤทธิ์ทำให้เคลือบฟันอ่อนตัวลง ส่งผลให้เคลือบฟันหลุดร่อนออกไปได้

ทั้งนี้ การแปรงฟันควรแปรงให้ครบทุกซี่ โดยให้แปรงอยู่ในลักษณะทำมุม 45 องศา และแปรงวนเป็นวงกลมทั้งด้านใน ด้านนอก และส่วนที่ใช้บดเคี้ยวของฟัน ส่วนฟันหน้าด้านในนั้นอาจแปรงในลักษณะขึ้น-ลงได้เช่นกัน ซึ่งทั้งหมดควรใช้เวลาไม่ต่ำกว่า 2 นาที และหลังจากแปรงฟันจนทั่วแล้ว ควรแปรงลิ้นเพื่อลดการเกิดกลิ่นปากและฝ้าที่ลิ้น ซึ่งเป็นแหล่งสะสมของเชื้อแบคทีเรียด้วย

หลังจากแปรงทำความสะอาดฟันเรียบร้อยแล้ว ให้บ้วนฟองยาสีฟันและเศษยาสีฟันที่ตกค้างอยู่ออก แต่ไม่ควรบ้วนปากด้วยน้ำสะอาดทันที เพราะจะทำให้สารฟลูออไรด์ที่เคลือบฟันถูกชะล้างออกไป ควรรอสักครู่แล้วค่อยบ้วนปากให้สะอาด เป็นอันเสร็จสิ้นขั้นตอนการแปรงฟัน

ไหมขัดฟันและน้ำยาบ้วนปากจำเป็นต่อการแปรงฟันหรือไม่ ?

การใช้ไหมขัดฟันหลังแปรงฟันเป็นสิ่งสำคัญที่ควรทำ เนื่องจากเป็นวิธีช่วยกำจัดเศษอาหารออกจากบริเวณซอกฟันที่แปรงสีฟันเข้าไม่ถึง ป้องกันปัญหาฟันผุที่อาจเกิดขึ้นตามมา โดยควรใช้ไหมขัดฟันอย่างน้อยวันละครั้ง ก่อนหรือหลังจากแปรงฟัน การใช้ในช่วงแรกอาจทำให้รู้สึกเจ็บหรือมีเลือดออกได้ แต่ไม่ต้องกังวล เพราะเหงือกจะคุ้นชินและแข็งแรงขึ้นเอง หากทำเป็นประจำ

ส่วนการใช้น้ำยาบ้วนปากนั้นช่วยป้องกันฟันผุได้จริง แต่ไม่ควรใช้หลังจากแปรงฟัน เพราะน้ำยาบ้วนปากอาจชะล้างฟลูออไรด์จากยาสีฟันที่มาช่วยเคลือบฟันได้ ควรใช้น้ำยาบ้วนปากในเวลาอื่น ๆ แทน เช่น หลังจากอาหารมื้อเที่ยง หรือหลังรับประทานของหวาน เป็นต้น นอกจากนี้ หลังจากใช้น้ำยาบ้วนปาก ควรหลีกเลี่ยงการดื่มหรือรับประทานอาหารอย่างน้อย 30 นาที เพื่อให้สารฟลูออไรด์ติดคงทนกับเคลือบฟันยิ่งขึ้น