เจ็บคอเป็นอาหารเจ็บป่วยที่เกิดขึ้นได้บ่อยอาการหนึ่ง ซึ่งวิธีแก้เจ็บคอมีอยู่หลายวิธีด้วยกัน ตั้งแต่วิธีง่าย ๆ ที่สามารถทำได้ด้วยตัวเอง ซึ่งมักใช้รักษาอาการเจ็บคอทั่วไปที่ไม่รุนแรง ไปจนถึงวิธีทางการแพทย์ ซึ่งมักใช้รักษาอาการเจ็บคอที่มีสาเหตุมาจากภาวะสุขภาพอื่น ๆ ที่รุนแรง หากคุณรู้วิธีแก้เจ็บคอเหล่านี้ คุณก็จะสามารถรับมือกับอาการเจ็บคอได้อย่างอยู่หมัด
อาการเจ็บคอสามารถเกิดขึ้นได้จากหลายสาเหตุ ทั้งจากสาเหตุทั่วไปอย่างมลพิษทางอากาศ การใช้เสียงมากเกินไป การติดเชื้อแบคทีเรียหรือเชื้อไวรัสทำให้เกิดไข้หวัด ทอนซิลอักเสบ หรืออาการของโรคภูมิแพ้ นอกจากนี้ ในบางกรณีอาจเป็นผลข้างเคียงมาจากภาวะสุขภาพที่รุนแรง เช่น โรคกรดไหลย้อน การติดเชื้อเอชไอวี โรคมะเร็งในลำคอ แต่มักเป็นอาการเจ็บคอแบบเรื้อรังอย่างผิดปกติ
5 วิธีแก้เจ็บคอที่ปลอดภัยและได้ผล
เมื่อมีอาการเจ็บคอเกิดขึ้นควรพักการใช้เสียงและหลีกเลี่ยงการสูดดมสารที่อาจก่อให้เกิดอาการระคายเคืองในลำคอเพิ่มมากขึ้น เช่น ควันบุหรี่ จากนั้นสามารถบรรเทาอาการเจ็บคอได้ด้วยวิธีการต่าง ๆ ดังนี้
1. จิบน้ำ
การจิบเครื่องดื่มอุ่น ๆ เช่น น้ำเปล่า น้ำอุ่นผสมน้ำผึ้ง หรือชาสมุนไพรที่ไม่มีคาเฟอีน จะช่วยให้รู้สึกชุ่มคอ ช่วยลดภาวะขาดน้ำ และอาจช่วยละลายเสมหะเหนียวข้นที่ติดค้างอยู่ภายในลำคอได้ ในบางกรณี การจิบเครื่องดื่มเย็นก็อาจช่วยบรรเทาอาการเจ็บคอบางประเภทได้เช่นกัน อย่างไรก็ตาม ควรหลีกเลี่ยงการดื่มเครื่องดื่มที่มีคาเฟอีนและเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ เพราะอาจทำให้เกิดภาวะขาดน้ำที่รุนแรงขึ้น
2. อมยาอมหรือใช้สเปรย์พ่นคอ
การอมยาอมแก้เจ็บคอหรือใช้สเปรย์พ่นคอสามารถช่วยบรรเทาอาการเจ็บคอได้ เนื่องจากยาอมแก้เจ็บคอและสเปรย์พ่นคอเหล่านี้มักมีส่วนผสมของเมนทอลหรือยาเบนโซเคน (Benzocaine) ซึ่งมีฤทธิ์เป็นยาชา จึงช่วยทำให้รู้สึกเจ็บคอน้อยลงได้ อย่างไรก็ตาม ไม่ควรให้เด็กที่มีอายุน้อยกว่า 4 ปีอมยาอมแก้เจ็บคอ เพราะอาจเสี่ยงต่อการสำลักได้ง่าย
3. กลั้วคอด้วยน้ำเกลือ
การกลั้วคอด้วยน้ำเกลืออาจสามารถช่วยละลายเสมหะในลำคอ ช่วยฆ่าเชื้อแบคทีเรียในลำคอ และช่วยลดอาการบวมในลำคอได้ โดยเมื่อมีอาการเจ็บคอให้ละลายเกลือแกงครึ่งช้อนชาลงในน้ำอุ่น 240 มิลลิลิตร จากนั้นกลั้วคอประมาณ 30 วินาทีแล้วบ้วนทิ้ง และควรกลั้วคอวันละ 2–3 ครั้ง นอกจากนี้ อาจใช้น้ำยาบ้วนปากที่มีฤทธิ์ในการต้านเชื้อแบคทีเรียในการกลั้วคอก็ได้เช่นกัน
4. พักผ่อนและหลีกเลี่ยงการใช้เสียง
การพักผ่อนอย่างเพียงพอจะช่วยให้ร่างกายสามารถฟื้นตัวจากไข้หวัดที่อาจเป็นสาเหตุของอาการเจ็บคอได้อย่างรวดเร็ว โดยควรนอนหลับวันละ 6–8 ชั่วโมง ในท่ายกศีรษะให้สูงขึ้นเล็กน้อยเพื่อป้องกันไม่ให้เกิดอาการบวมบริเวณลำคอ และสิ่งที่สำคัญอีกประการหนึ่งคือควรหลีกเลี่ยงการใช้เสียง เช่น การพูด การร้องเพลง หรือการตะโกน
5. รับประทานยาแก้เจ็บคอ
หากมีอาการเจ็บคอที่รบกวนการใช้ชีวิตประจำวัน อาจรับประทานยาแก้ปวดทั่วไป เช่น ยาอะเซตามิโนเฟน (Acetaminophen) หรือยาไอบูโปรเฟน (Ibuprofen) เนื่องจากยาแก้ปวดจะออกฤทธิ์บรรเทาอาการอักเสบบริเวณลำคอที่อาจเป็นสาเหตุของอาการเจ็บคอที่เกิดขึ้นได้ โดยผู้ป่วยควรใช้ยาตามคำแนะนำบนฉลากหรือคำแนะนำของเภสัชกรอย่างเคร่งครัด เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดผลกระทบต่อสุขภาพตามมา
นอกจากนี้ หากอาการเจ็บคอที่เกิดขึ้นมีสาเหตุมาจากการติดเชื้อแบคทีเรียในลำคอ อาจจำเป็นต้องรักษาด้วยยาปฏิชีวนะที่สั่งจ่ายโดยแพทย์เท่านั้น ซึ่งก็ควรใช้ยาตามคำแนะนำของแพทย์อย่างเคร่งครัดเช่นกัน เพราะหากใช้ยาปฏิชีวนะไม่ครบตามปริมาณที่แพทย์กำหนด อาจส่งผลกระทบต่อสุขภาพอย่างรุนแรงได้
อย่างไรก็ตาม หากรักษาอาการเจ็บคอด้วยวิธีแก้เจ็บคอทั้ง 5 วิธีนี้แล้วอาการยังไม่ดีขึ้นภายในเวลา 1 สัปดาห์ หรือมีอาการผิดปกติอื่น ๆ เกิดขึ้นร่วมด้วย เช่น มีอาการเจ็บคออย่างรุนแรงผิดปกติ กลืนลำบาก เสมหะมีเลือดปน เกิดก้อนในลำคอ ปวดหู หรือมีไข้สูง ควรไปพบแพทย์เพราะอาการเหล่านี้อาจเป็นสัญญาณของปัญหาสุขภาพที่รุนแรงได้เช่นกัน