Itraconazole (ไอทราโคนาโซล)
Itraconazole (ไอทราโคนาโซล) เป็นยาในกลุ่มยาต้านเชื้อรา ยับยั้งการทำงานของเยื่อหุ้มเซลล์และการเจริญเติบโตของเชื้อราที่ก่อให้เกิดการติดเชื้อในบริเวณต่าง ๆ ในร่างกาย เช่น เล็บมือ เล็บเท้า ปอด ในช่องปาก ลำคอ หรือหลอดอาหาร เป็นต้น ยา Itraconazole มีข้อควรระวังในการใช้ร่วมกับยาและผลิตภัณฑ์สุมนไพรหลายชนิด ควรอ่านฉลากยาอย่างละเอียด หรือปรึกษาแพทย์และเภสัชกรก่อนใช้
เกี่ยวกับ Itraconazole
กลุ่มยา | ยาต้านเชื้อรา |
ประเภทยา | ยาตามใบสั่งแพทย์ |
สรรพคุณ | ต้านการเจริญเติบโตของเชื้อราที่ทำให้เกิดการติดเชื้อ |
กลุ่มผู้ป่วย | ผู้ใหญ่และเด็ก |
รูปแบบของยา | ยารับประทานทั้งชนิดแคปซูลและน้ำ และยาฉีด |
คำเตือนการใช้ยา Itraconazole
บุคคลที่อยู่ในกลุ่มดังต่อไปนี้ควรปรึกษาและแจ้งแพทย์ให้ทราบถึงประวัติการใช้ยาและประวัติทางการแพทย์
- แพ้ยา Itraconazole หรือส่วนประกอบอื่น ๆ ในตัวยา
- ตั้งครรภ์ มีแนวโน้มจะตั้งครรภ์หรือต้องให้นมบุตร
- มีอาการไตวายหรือมีปัญหารุนแรงเกี่ยวกับไต
- เป็นโรคตับ โรคปอดหรือโรคระบบทางเดินหายใจ
- เป็นโรคหัวใจ รวมไปถึงโรคหลอดเลือดหัวใจตีบตันหรือหัวใจล้มเหลว หรือมีประวัติอัตราการเต้นของหัวใจไม่ปกติ
- ติดเชื้อ HIV ระบบภูมิคุ้มกันไม่แข็งแรงหรือมีปัญหาเกี่ยวกับปอดหรือการหายใจ เช่น โรคปอดอุดกั้นเรื้อรัง (Chronic Obstructive Pulmonary Disease: COPD)
เนื่องจากยา Itraconazole ห้ามใช้ร่วมกับยาหลาย ๆ ชนิด ผู้ป่วยควรแจ้งแพทย์ถึงยาทั้งหมดที่ใช้ในช่วงก่อนหน้านี้โดยเฉพาะยาดังต่อไปนี้
- ยาปฏิชีวนะ เช่น ไซโปรฟลอกซาซิน (Ciprofloxacin) คลาริโธรมัยซิน (Clarithromycin) และ อิริโทรมัยซิน (Erythromycin)
- ยาต้านการเกิดลิ่มเลือด เช่น วาฟาริน (Warfarin)
- ยารักษาปัญหาเกี่ยวกับทางเดินปัสสาวะ
- ยารักษาปวดหัวไมเกรน เช่น กลุ่มยาเออร์กอต (Ergot) และกลุ่มยาอีลีทริปแทน (Eletriptan)
- ยาต้านชัก เช่น คาร์บามาซีปีน (Carbamazepine)
- ยารักษาระดับคอเลสเตอรอลสูง
- ยารักษาโรคเอดส์
- ยาระงับปวดชนิดเสพติด เช่น ยาเฟนทานิล (Fentanyl)
- ยาระงับอาการทางจิตหรือยาระงับประสาท เช่น ซาแน็กซ์ (XANAX) และยาแวเลี่ยม (Valium)
- ยากดภูมิคุ้มกัน เช่น เดกซาเมทาโซน (Dexamethasone) เอเวอโรลิมัส (Everolimus) ไซโคลสปอริน (Cyclosporin) และไซโลลิมัส (Sirolimus)
- ยารักษาโรคมะเร็ง เช่น ดาซาทินิบ (Dasatinib) และ นิโลทินิบ (Nilotinib)
- ยารักษาโรคหัวใจและความดันโลหิต เช่น เวอราปามิล (Verapamil) และ ดิลไทอะเซม (Diltiazem)
ปริมาณการใช้ยา Itraconazole สำหรับรักษาอาการต่าง ๆ
- ผู้ใหญ่
ยารับประทานปริมาณ 200 มิลลิกรัม วันละครั้ง ติดต่อกัน 1-2 สัปดาห์ - เด็กอายุ 5 ปีขึ้นไป
ยารับประทานปริมาณ 2.5 มิลลิกรัมต่อน้ำหนักตัว 1 กิโลกรัม วันละ 2 ครั้ง
เชื้อราหลอดอาหาร
- ผู้ใหญ่
ยารับประทานปริมาณ 100 มิลลิกรัม วันละครั้ง ติดต่อกันอย่างน้อย 3 สัปดาห์ และต่อเนื่องอีก 2 สัปดาห์หลังรักษาอาการแล้ว - เด็กอายุ 5 ปีขึ้นไป
ยารับประทานปริมาณ 2.5 มิลลิกรัมต่อน้ำหนักตัว 1 กิโลกรัม วันละ 2 ครั้ง
- ผู้ใหญ่
ยารับประทานปริมาณ 200 มิลลิกรัม วันละ 2 ครั้ง เพียงวันเดียว
- ผู้ใหญ่
ยารับประทานปริมาณ 200 มิลลิกรัม วันละครั้ง ติดต่อกัน 12 สัปดาห์สำหรับเล็บเท้าและ ยารับประทานปริมาณ 200 มิลลิกรัม วันละ 2 ครั้ง ติดต่อกัน 1 สัปดาห์สำหรับเล็บมือ
โรคราแอสเพอร์จิลลัส (Aspergillosis)
- ผู้ใหญ่
ยารับประทานปริมาณ 200 มิลลิกรัม วันละ 3 ครั้งในช่วง 3 วันแรก หลังจากนั้นลดเหลือ วันละ 1-2ครั้ง ติดต่อกันอย่างน้อย 3 เดือน
โรคบลาสโตไมโคซิส (Blastomycosis)
- ผู้ใหญ่
ยารับประทานปริมาณ 200 มิลลิกรัม วันละ 3 ครั้งในช่วง 3 วันแรก หลังจากนั้นลดเหลือ วันละ 1-2ครั้ง ติดต่อกันอย่างน้อย 3 เดือน - เด็ก
ยารับประทานปริมาณ 10 มิลลิกรัมต่อน้ำหนักตัว 1 กิโลกรัม เป็นเวลา 6-12 เดือน (สูงสุดไม่เกิน 400 มิลลิกรัมต่อวัน)
โรคฮีสโตพลาสโมสิส (Histoplasmosis)
- ผู้ใหญ่
ยารับประทานปริมาณ 200 มิลลิกรัม วันละ 3 ครั้งในช่วง 3 วันแรก หลังจากนั้นลดเหลือ วันละ 1-2 ครั้ง ติดต่อกันอย่างน้อย 3 เดือน - เด็ก
ยารับประทานปริมาณ 5-10 มิลลิกรัมต่อน้ำหนักตัว 1 กิโลกรัม โดยแบ่งให้ 2 ครั้งต่อวัน ระยะเวลาโดยรวมนานสุด 3 เดือน แต่หากผู้ใช้เป็นโรคร้ายแรง มีการกดระบบภูมิคุ้มกันหรือเป็นโรคภูมิคุ้มกันบกพร่องชนิดปฐมภูมิ อาจต้องใช้เวลาในการรักษานานขึ้น (สูงสุดไม่เกิน 400 มิลลิกรัมต่อวัน)
โรคสปอโรทริโคสิส (Sporotrichosis)
- ผู้ใหญ่
ยารับประทานปริมาณ 200 มิลลิกรัม วันละครั้ง ติดต่อกัน 2-4 สัปดาห์ - เด็ก
ยารับประทานปริมาณ 6-10 มิลลิกรัมต่อน้ำหนักตัว 1 กิโลกรัม วันละครั้ง ติดต่อกันอย่างน้อย 1 ปี
โรคคริปโตค็อกโคซิส (Cryptococcosis)
- ผู้ใหญ่
ยารับประทานปริมาณ 200 มิลลิกรัม วันละ 2 ครั้ง ติดต่อกัน 6-12 เดือน - เด็ก
ยารับประทานปริมาณ 5 มิลลิกรัมต่อน้ำหนักตัว 1 กิโลกรัม วันละครั้ง เป็นเวลาอย่างน้อย 1 ปี (สูงสุดไม่เกิน 200 มิลลิกรัมต่อครั้ง)
ติดเชื้อราทั่วร่างกาย
- ผู้ใหญ่
ยาฉีดปริมาณ 200 มิลลิกรัม ทุก ๆ 1 ชั่วโมง นาน 2 วัน และฉีดอีก 200 มิลลิกรัม วันละครั้งอีก 14 วัน
ทั้งนี้ ยาฉีดนี้ใช้ในสถานพยาบาลเท่านั้น
ยา Itraconazole ชนิดเม็ดและชนิดน้ำ มีสรรพคุณในการรักษาและการดูดซึมเข้าร่างกายแตกต่างกัน ถึงแม้จะใช้ในปริมาณที่เท่ากันก็ตาม จึงไม่สามารถนำมาใช้รักษาแทนกันได้ และควรปรึกษาแพทย์หรือเภสัชกรก่อนใช้ยา
การใช้ยา Itraconazole
- ควรหลีกเลี่ยงการใช้เครื่องจักรหรือการขับรถขณะใช้ยา Itraconazole เพราะอาจทำให้มีอาการเวียนศีรษะ หรือมีปัญหากับการมองเห็น เช่น ภาพไม่ชัดหรือภาพซ้อน
- ควรรับประทานยาในปริมาณที่แพทย์หรือเภสัชกรแนะนำอย่างเคร่งครัด
- ควรเก็บยาไว้ในอุณหภูมิห้อง หรือประมาณ 15-25 องศาเซลเซียส ไม่ควรเก็บไว้ในที่ที่มีความร้อน ความชื้น และไม่ควรสัมผัสแสงโดยตรง
- ควรกินทั้งแคปซูลหรือเม็ด ไม่ควรเปิด เคี้ยวหรือบดยา
- การกินยาเวลาเดิมทุกวันช่วยให้ยาออกฤทธิ์ได้ดียิ่งขึ้น
- ควรกินยาตามแพทย์สั่งให้ครบ เพื่อรักษาการติดเชื้อให้หายขาดและป้องกันการเป็นซ้ำ
- หากลืมกินยา ควรรีบกินยาทันทีที่รู้ตัว แต่หากใกล้จะถึงเวลากินยาครั้งต่อไปแล้ว ให้ข้ามยาที่ลืมกินนั้นไป และห้ามเพิ่มปริมาณยาที่จะกินในครั้งต่อไป
ผลข้างเคียงจากการใช้ยา Itraconazole
ผู้ใช้ยา Itraconazole อาจได้รับผลข้างเคียงทั่วไปจากตัวยา เช่น กระหายน้ำ ปากแห้ง มีไข้ คลื่นไส้ อาเจียน หรืออาการอื่น ๆ ดังนี้
- ไม่อยากอาหาร
- อารมณ์เปลี่ยน
- ปัสสาวะน้อยครั้ง
- หายใจลำบาก
- ริมฝีปาก มือหรือเท้าเป็นเหน็บและมีอาการชา
- เจ็บหรือเกร็งกล้ามเนื้อ
- การเต้นหัวใจผิดปกติ
- ชัก
- หมดแรงหรืออ่อนเพลีย
ผลข้างเคียงที่อาจทำให้เสียชีวิตได้ ได้แก่ ปอดบวมน้ำ ตับอักเสบหรือภาวะหัวใจวาย