Levonorgestrel (ลีโวนอร์เจสเตรล)
Levonorgestrel (ลีโวนอร์เจสเตรล) คือ ยาคุมกำเนิดที่เป็นฮอร์โมนโปรเจสตินสังเคราะห์ มีกลไกการออกฤทธิ์โดยช่วยป้องกันการตกไข่ในช่วงรอบเดือน รวมทั้งทำให้ของเหลวในช่องคลอดเหนียวตัวขึ้น และช่วยให้เยื่อบุโพรงมดลูกเปลี่ยนแปลงจนอสุจิผ่านเข้าไปปฏิสนธิยากขึ้น นำมาใช้ในการคุมกำเนิดฉุกเฉิน กรณีที่มีเพศสัมพันธ์โดยไม่ได้ป้องกัน ใช้เครื่องมือสำหรับคุมกำเนิดไม่ถูกวิธี หรือการคุมกำเนิดล้มเหลว เช่น ถุงยางแตก ถุงยางรั่ว เป็นต้น รวมไปถึงกรณีถูกคุกคามทางเพศจนเสี่ยงเกิดการตั้งครรภ์ นอกจากนี้ ยานี้ยังใช้รักษาภาวะประจำเดือนมามากผิดปกติ ใช้เป็นฮอร์โมนทดแทนในสตรีวัยหมดประจำเดือน และอาจใช้รักษาโรคอื่น ๆ ตามดุลยพินิจของแพทย์
ยา Levonorgestrel มีข้อห้ามใช้และอาจเกิดผลข้างเคียงได้ ดังนั้น การใช้ยาควรอยู่ภายใต้คำแนะนำของแพทย์และเภสัชกรเสมอ
เกี่ยวกับยา Levonorgestrel
กลุ่มยา | ยาคุมกำเนิดฉุกเฉิน |
ประเภทยา | ยาตามใบสั่งแพทย์ |
สรรพคุณ | คุมกำเนิด รักษาภาวะประจำเดือนมามากผิดปกติ ใช้เป็นฮอร์โมนทดแทนในสตรีวัยหมดประจำเดือน |
กลุ่มผู้ป่วย | ผู้ใหญ่ |
รูปแบบของยา | ยารับประทาน ยาฝังใต้ผิวหนัง ห่วงอนามัย |
คำเตือนในการใช้ยา Levonorgestrel
- แจ้งให้แพทย์ทราบก่อนใช้ยานี้ หากมีประวัติแพ้ยาหรือส่วนประกอบของยาชนิดนี้ และแพ้ยาชนิดอื่น อาหาร หรือสารใด ๆ
- แจ้งให้แพทย์ทราบเกี่ยวกับยาทุกชนิดที่กำลังใช้อยู่ ทั้งยาที่แพทย์สั่ง ยาที่ซื้อใช้ด้วยตนเอง วิตามิน และสมุนไพร เพราะมียาหลายชนิดที่อาจทำปฏิกิริยากับยานี้
- หญิงตั้งครรภ์ห้ามใช้ยานี้โดยเด็ดขาด เพราะเสี่ยงเป็นอันตรายต่อทารกในครรภ์ได้สูง และต้องแจ้งให้แพทย์ทราบก่อนใช้ยา หากกำลังตั้งครรภ์หรือวางแผนจะตั้งครรภ์
- แจ้งให้แพทย์ทราบเกี่ยวกับโรคประจำตัวหรือภาวะสุขภาพใด ๆ อย่างละเอียดก่อนใช้ยา โดยเฉพาะผู้ที่มีภาวะมีเลือดออกทางช่องคลอดผิดปกติ เป็นโรคเกี่ยวกับหลอดเลือดแดงที่รุนแรง โรคพอร์ฟีเรีย มีเนื้องอกที่ตับ ตับบกพร่อง มีประวัติเป็นมะเร็งเต้านม หรือเพิ่งเข้ารับการระบายของเสียเนื่องจากมีครรภ์ไข่ปลาอุก
- แจ้งให้แพทย์ พยาบาล เภสัชกร และทันตแพทย์ทราบว่ากำลังใช้ยานี้ ก่อนเข้ารับการรักษาใด ๆ
- ยานี้ไม่สามารถป้องกันโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ เช่น โรคติดเชื้อเอชไอวี (HIV) หรือโรคไวรัสตับอักเสบบางชนิด ดังนั้น เพื่อความปลอดภัย ควรใช้ถุงยางอนามัยเมื่อมีเพศสัมพันธ์ และไม่ใช้เข็มฉีดยาหรือของใช้ส่วนตัวร่วมกับผู้อื่น เช่น แปรงสีฟัน มีดโกน เป็นต้น
- หากพบว่าประจำเดือนมาช้ากว่าปกติ 7 วัน ในระหว่างที่ใช้ยานี้ ให้ปรึกษาแพทย์
- สตรีที่กำลังให้นมบุตรควรปรึกษาแพทย์ก่อนใช้ยานี้ เพราะตัวยาอาจซึมผ่านน้ำนมมารดาและเป็นอันตรายต่อทารกได้
ปริมาณการใช้ยา Levonorgestrel
ปริมาณและระยะเวลาในการใช้ยาขึ้นอยู่กับดุลยพินิจของแพทย์ผู้รักษา โดยมีตัวอย่างการใช้ยา ดังนี้
การคุมกำเนิดฉุกเฉิน
ผู้ใหญ่
รับประทานยาปริมาณ 1.5 มิลลิกรัม ในทันทีหรือภายใน 72-120 ชั่วโมง หลังจากมีเพศสัมพันธ์ หรือรับประทานยาปริมาณ 750 ไมโครกรัม ในทันทีหรือภายใน 72-120 ชั่วโมง หลังจากมีเพศสัมพันธ์ และรับประทานยาครั้งที่ 2 หลังผ่านไป 12 ชั่วโมง อีกทางเลือกหนึ่ง คือ รับประทานยา Levonorgestrel ปริมาณ 500 ไมโครกรัม และยา Ethinylestradiol ปริมาณ 100 ไมโครกรัม โดยอาจรับประทานยาภายใน 72 ชั่วโมง หลังจากมีเพศสัมพันธ์ และรับประทานยาอีกครั้งหลังผ่านไป 12 ชั่วโมง
การคุมกำเนิดและรักษาประจำเดือนมามากผิดปกติ
ผู้ใหญ่
ใช้ห่วงอนามัยหรือห่วงคุมกำเนิดปริมาณยา 52 มิลลิกรัม อัตราเริ่มต้น 20 ไมโครกรัม/วัน โดยยาจะมีประสิทธิภาพนานถึง 5 ปี
การคุมกำเนิด
ผู้ใหญ่
- ยาชนิดรับประทาน ยา Levonorgestrel ให้รับประทานปริมาณ 30 หรือ 37.5 ไมโครกรัม/วัน
ยาคุมกำเนิดแบบฮอร์โมนรวมชนิดที่มีปริมาณฮอร์โมนในแต่ละเม็ดเท่ากัน ให้รับประทานปริมาณ 150-250 ไมโครกรัม/วัน
ยาคุมกำเนิดชนิดฮอร์โมนรวม 3 ระดัับ (Triphasic Combined Oral Contraceptive: COC) รับประทานปริมาณ 50-125 ไมโครกรัม/วัน - ยาชนิดฝังทางผิวหนัง สอดยาฝังเข้าใต้ผิวหนัง 6 อัน ปริมาณยา 36 มิลลิกรัม/อัน ภายใน 7 วันแรกของรอบเดือน และสอดยาซ้ำอีกครั้งหลังผ่านไปเป็นเวลาประมาณ 5 ปี
การให้ฮอร์โมนทดแทนในสตรีวัยหมดประจำเดือน
ผู้ใหญ่
- ยาชนิดรับประทาน คำนวณให้ส่วนประกอบโพรเจสเตอเจนในยามีปริมาณ 75-250 ไมโครกรัม และให้ยาเป็นระยะเวลา 10-12 วัน ในรอบประจำเดือน 28 วัน
- ยาชนิดแผ่นแปะผิวหนัง ติดแผ่นแปะผิวหนังที่ปลดปล่อยปริมาณยา 10 ไมโครกรัม/24 ชั่วโมง พร้อมกับเอสโตรเจน โดยใช้สัปดาห์ละ 1 ครั้ง เป็นเวลา 2 สัปดาห์ ในรอบ 4 สัปดาห์ หรือติดแผ่นแปะที่ปลดปล่อยปริมาณยา 7 หรือ 15 ไมโครกรัม/24 ชั่วโมง พร้อมกับเอสโตรเจน โดยใช้สัปดาห์ละ 1 ครั้ง
การใช้ยา Levonorgestrel
- ใช้ยาตามฉลากและตามคำสั่งแพทย์อย่างเคร่งครัด หากมีข้อสงสัยควรสอบถามแพทย์หรือเภสัชกรก่อนใช้ยาเสมอ
- ใช้ยานี้ภายใน 72-120 ชั่วโมง หลังจากการมีเพศสัมพันธ์ที่ไม่ได้ป้องกัน หรือใช้ยาให้เร็วที่สุดเท่าที่สามารถทำได้
- หากอาเจียนภายใน 2 ชั่วโมง หลังจากที่ใช้ยานี้ ต้องแจ้งให้แพทย์ทราบทันที เพราะอาจจำเป็นต้องใช้ยาซ้ำอีกครั้ง
- กรณีที่ใช้เพื่อการคุมกำเนิดฉุกเฉิน หลังจากรับประทานยานี้ครบแล้ว ควรปรึกษาแพทย์เกี่ยวกับวิธีคุมกำเนิดอื่น ๆ ที่เหมาะสมต่อไปในอนาคต
- ห้ามให้ผู้อื่นใช้ยานี้ และห้ามใช้ยาของผู้อื่น
- แจ้งให้แพทย์ทราบหากอาการไม่ดีขึ้นหรือแย่ลง
- หากลืมรับประทานยาคุมกำเนิดให้ปรึกษาแพทย์ทันที ห้ามเพิ่มปริมาณยาเป็น 2 เท่า
- หากสงสัยว่าตนใช้ยาเกินกว่าปริมาณที่กำหนด ควรแจ้งให้แพทย์ทราบทันที
- ปรึกษาแพทย์หรือเภสัชกรถึงวิธีการเก็บยาและการกำจัดยาที่ไม่ได้ใช้แล้วอย่างเหมาะสม
- เก็บยาไว้ที่อุณหภูมิห้อง ในที่แห้ง ห่างจากแสงแดด พ้นจากสายตาเด็กและสัตว์เลี้ยง
ผลข้างเคียงจากการใช้ยา Levonorgestrel
การใช้ยา Levonorgestrel อาจทำให้เกิดผลข้างเคียง ได้แก่ ปวดศีรษะ อาเจียน ท้องไส้ปั่นป่วน เจ็บเต้านม เวียนศีรษะ รอบเดือนเปลี่ยนแปลง ปวดท้อง รู้สึกเหนื่อย อ่อนเพลีย เป็นต้น หากอาการดังกล่าวไม่หายไปหรือรบกวนการใช้ชีวิตประจำวัน ผู้ป่วยควรไปพบแพทย์
หากพบผลข้างเคียงที่รุนแรงจากการใช้ยา Levonorgestrel ดังต่อไปนี้ ควรหยุดใช้ยาและไปพบแพทย์ทันที
- อาการแพ้ยา เช่น ลมพิษ หน้าบวม ริมฝีปากบวม ลิ้นบวม คอบวม ผิวหนังบวม มีผื่นคัน แดง มีเม็ดพุพอง ผิวลอกพร้อมกับมีไข้หรือไม่มีไข้ แน่นหน้าอกหรือลำคอ หายใจลำบาก มีปัญหาในการหายใจหรือการพูด เสียงแหบ เป็นต้น
- ปวดท้องอย่างรุนแรง ซึ่งอาจเกิดขึ้นได้หลังใช้ยาไปแล้วเป็นเวลา 3-5 สัปดาห์
- ภาวะเกล็ดเลือดต่ำ
- มีอาการของโรคหลอดเลือดสมอง
นอกจากนี้ หากผู้ป่วยพบอาการผิดปกติใด ๆ เพิ่มเติม ควรรีบแจ้งให้แพทย์ทราบด้วยเช่นกัน