Oxytocin (ออกซิโทซิน)

Oxytocin (ออกซิโทซิน)

Oxytocin (ออกซิโทซิน) คือฮอร์โมนชนิดหนึ่งที่มีหน้าที่กระตุ้นการทำงานของมดลูก ซึ่งทางการแพทย์ได้นำมาใช้เพื่อกระตุ้นการคลอดหรือเพิ่มการบีบตัวของมดลูกในระหว่างการคลอดบุตร รวมทั้งใช้รักษาอาการตกเลือดหลังคลอด และกระตุ้นการทำงานของมดลูกในผู้หญิงที่มีภาวะแท้งคุกคาม ยาชนิดนี้ต้องใช้ภายใต้คำแนะนำของแพทย์เท่านั้น เนื่องจากเป็นยาอันตราย

Oxytocin

เกี่ยวกับยา Oxytocin

กลุ่มยา ยาฮอร์โมน
ประเภทยา ยาตามใบสั่งแพทย์ 
สรรพคุณ กระตุ้นการคลอดและรักษาอาการตกเลือด
กลุ่มผู้ป่วย ผู้ใหญ่
รูปแบบของยา ยาฉีด

คำเตือนในการใช้ยา Oxytocin

  • หลีกเลี่ยงการใช้ Oxytocin หากผู้ป่วยมีประวัติแพ้ยานี้
  • แจ้งให้แพทย์ทราบก่อนใช้ยานี้หากป่วยเป็นโรคเริมที่อวัยวะเพศ โรคเบาหวาน ความดันโลหิตสูง หัวใจเต้นผิดจังหวะ โรคมะเร็งบริเวณเชิงกราน หรือมีการติดเชืื้อในมดลูก
  • ผู้ที่เคยตั้งครรภ์มาแล้วมากกว่า 5 ครั้ง ควรปรึกษาแพทย์ก่อนใช้ยา
  • หญิงตั้งครรภ์ที่มีปัญหาเกี่ยวกับกระดูกเชิงกรานเล็กหรือเคยเข้ารับการผ่าตัดบริเวณเชิงกรานหรือมดลูก ควรปรึกษาแพทย์ก่อนใช้ยานี้
  • ห้ามสตรีมีครรภ์ใช้ยานี้โดยไม่ได้รับคำแนะนำจากแพทย์ และขณะใช้ยาต้องอยู่ภายใต้การดูแลของผู้เชี่ยวชาญอย่างใกล้ชิด
  • หญิงตั้งครรภ์ที่มีอายุครรภ์น้อยกว่า 37 สัปดาห์ ควรปรึกษาแพทย์ก่อนใช้ยานี้
  • หญิงที่อยู่ในช่วงให้นมบุตรควรแจ้งให้แพทย์ทราบก่อนใช้ยานี้

ปริมาณการใช้ยา Oxytocin

  • รักษาอาการตกเลือดหลังคลอดบุตร ให้ยา 10-40 ยูนิต ผสมกับสารน้ำ 1,000 มิลลิลิตร ในอัตราที่สามารถควบคุมการบีบตัวของกล้ามเนื้อมดลูก
  • กระตุ้นการคลอด ให้ยา 1-2 มิลลิยูนิตต่อนาที โดยปรับเพิ่มปริมาณยาได้ทุก ๆ 30 นาทีจนกว่ามดลูกจะบีบตัว 3-4 รอบในช่วง 10 นาที ไม่ควรให้ยาเกิน 32 มิลลิยูนิตต่อนาที และไม่ควรเกิน 5 ยูนิตต่อวัน ห้ามให้ยานี้ในช่วง 6 ชั่วโมงแรกหลังจากให้ยาโพรสตาแกลนดิน (Prostaglandin) ทางช่องคลอด ควรคอยสังเกตการบีบตัวของมดลูกและอัตราการเต้นของหัวใจทารกอย่างต่อเนื่อง เมื่อเริ่มเข้าสู่ภาวะคลอดแล้วจึงค่อย ๆ หยุดให้ยา

การใช้ยา Oxytocin

Oxytocin เป็นยาที่ให้ผ่านทางหลอดเลือดดำ ผู้ป่วยจึงต้องได้รับยาดังกล่าวตามคำแนะนำของแพทย์และภายในโรงพยาบาลเท่านั้น ซึ่งก่อนใช้ยาผู้ป่วยต้องแจ้งให้แพทย์ทราบถึงปัญหาสุขภาพและประวัติการแพ้ยา รวมทั้งแจ้งเกี่ยวกับยาชนิดอื่น ๆ ที่กำลังใช้อยู่

แพทย์จะพิจารณาปริมาณและระยะเวลาในการใช้ยา Oxytocin จากปัจจัยต่าง ๆ เช่น การบีบตัวของมดลูก หรืออาการอื่น ๆ ของผู้ป่วยหลังจากให้ยานี้ และต้องมีการเฝ้าสังเกตอัตราการเต้นของหัวใจทารก เพื่อเตรียมรับมือกับผลข้างเคียงจากการใช้ยาที่อาจเกิดขึ้นกับทารก

ผลข้างเคียงจากการใช้ยา Oxytocin

ยา Oxytocin อาจก่อให้เกิดผลข้างเคียงอันไม่พึงประสงค์ ผู้ป่วยควรแจ้งให้แพทย์หรือพยายาลทราบหากมีอาการผิดปกติใด ๆ ในระหว่างที่ได้รับยา ผลข้างเคียงของยา Oxytocin ที่พบได้บ่อย มีดังนี้

  • ผิวหนังบริเวณที่ฉีดยาแดงหรือระคายเคือง
  • คลื่นไส้ อาเจียน
  • มีอาการปวดหรือปวดบีบที่ท้อง
  • มดลูกบีบตัวรุนแรงและบ่อยครั้งขึ้น
  • คัดจมูก
  • มีอาการปวดหรือระคายเคืองบริเวณไซนัส

หากพบผลข้างเคียงที่เป็นอันตรายต่อไปนี้ควรแจ้งแพทย์ทันทีเพื่อความปลอดภัย

  • หัวใจเต้นผิดปกติ
  • เจ็บหรือแน่นบริเวณหน้าอก
  • หายใจถี่ หรือหายใจมีเสียงหวีด
  • เกิดลมพิษ ผื่น หรือมีอาการคัน
  • มีเลือดออกทางช่องคลอดมากขึ้น หรือเลือดไหลไม่หยุด
  • มีอาการมึนงง สับสน
  • ปวดศีรษะอย่างรุนแรงหรือปวดอย่างต่อเนื่อง
  • ชัก
  • เกิดภาพหลอน
  • อาเจียนอย่างรุนแรง
  • เป็นตะคริวที่กล้ามเนื้อ
  • อ่อนเพลียหรืออ่อนแรงมากผิดปกติ
  • ทรงตัวไม่อยู่ หรือมีปัญหาในการเคลื่อนไหวร่างกาย
  • ตรวจพบความดันโลหิตขึ้นสูงถึงขึ้นเป็นอันตราย

นอกจากนี้ หากมีอาการของการได้รับ Oxytocin ในปริมาณมากเกินกว่าที่กำหนด ได้แก่ กระสับกระส่าย สั่น ง่วงนอน ตอบสนองช้า พูดไม่ชัด และหมดสติ ผู้ป่วยควรขอความช่วยเหลือจากแพทย์ทันทีเช่นกัน