Salicylic Acid (ซาลิไซลิก แอซิด)
Salicylic Acid (ซาลิไซลิก แอซิด) เป็นยาลอกผิวหนัง มีฤทธิ์ทำให้ผิวหนังหลุดลอกออก ใช้รักษาปัญหาผิวหนังต่าง ๆ เช่น ตาปลา โรคสะเก็ดเงิน โรคผิวหนังอักเสบเซบเดิร์ม สิว และโรคหูด นอกจากนั้น แพทย์อาจใช้ยานี้รักษาอาการอื่น ๆ ตามความเหมาะสม
เกี่ยวกับยา Salicylic Acid
กลุ่มยา | ยารักษาโรคผิวหนัง |
ประเภทยา | ยาตามใบสั่งแพทย์ ยาหาซื้อได้เอง |
สรรพคุณ | ช่วยลอกเซลล์ผิวหนัง |
กลุ่มผู้ป่วย | เด็กและผู้ใหญ่ |
รูปแบบของยา | ยาทา แผ่นแปะ |
คำเตือนในการใช้ Salicylic Acid
- ผู้ที่มีประวัติแพ้ยา Salicylic Acid ไม่ควรใช้ยานี้
- หากกำลังตั้งครรภ์ หรืออยู่ในช่วงให้นมบุตร ควรแจ้งให้แพทย์ทราบก่อนใช้ยา เพราะยังไม่ทราบแน่ชัดถึงอันตรายและผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นกับทารก
- ห้ามใช้ยากับเด็กที่มีไข้สูง เป็นหวัด หรืออีสุกอีใส เพราะอาจเสี่ยงเกิดภาวะกลุ่มอาการเรย์ (Reye's Syndrome) ซึ่งทำให้สมองและตับได้รับความเสียหาย และอาจรุนแรงถึงขั้นเสียชีวิตได้
- แจ้งให้แพทย์ทราบหากกำลังใช้ยาชนิดอื่น ๆ อยู่
- โรคประจำตัวบางโรคหรือภาวะบางอย่าง อาจเสี่ยงเกิดผลข้างเคียงอันตรายหลังใช้ยาได้ เช่น ผิวหนังอักเสบติดเชื้อ โรคเกี่ยวกับหลอดเลือด หรือการไหลเวียนของเลือดผิดปกติ โรคเบาหวาน โรคตับ และโรคไต เป็นต้น ดังนั้น ควรแจ้งให้แพทย์ทราบทุกครั้งก่อนใช้ยา
- ห้ามใช้ยาชนิดนี้รักษาโรคผิวหนังอื่น ๆ เช่น ไฝ หรือหูดบนใบหน้า
- ห้ามใช้ยาชนิดนี้บริเวณผิวที่ไหม้จากแสงแดด ผิวหนังอักเสบเนื่องจากถูกลมแรง ผิวหนังถลอก หรือแห้งแตก และผิวที่มีอาการระคายเคือง
- หลีกเลี่ยงการใช้ Salicylic Acid กับยาชนิดอื่นทาในบริเวณเดียวกันหากไม่มีคำสั่งจากแพทย์
- ห้ามสูบบุหรี่จนกว่าตัวยาจะซึมเข้าสู่ผิวหนังอย่างแห้งสนิท
- ระวังอย่าให้ยาเข้าตา จมูก ปาก และเนื้อเยื่อเมือกอื่น ๆ หากสัมผัสกับยาในบริเวณดังกล่าว ควรรีบล้างออกด้วยน้ำสะอาดทันที
- ยาอาจไวต่อไฟและความร้อน ห้ามจุดไฟหรืออยู่ใกล้บริเวณที่มีความร้อนสูงในขณะใช้ยา
- ไม่ควรใช้ยาในเด็กอายุต่ำกว่า 2 ปี
ปริมาณการใช้ Salicylic Acid
รักษาสิว
- ผู้ใหญ่ ทายาความเข้มข้น 0.5-2 เปอร์เซ็นต์ บาง ๆ ลงบนผิว วันละ 1-3 ครั้ง เป็นประจำทุกวัน แล้วอาจลดลงเหลือวันละ 1 ครั้ง หรือวันเว้นวัน หากเกิดภาวะผิวแห้งหรือผิวหลุดลอกออก
รักษาผิวหนังที่หนาตัวขึ้นและผิวหนังที่แห้งแตก
- ผู้ใหญ่ ทายาความเข้มข้น 1.8-3 เปอร์เซ็นต์ บาง ๆ ลงบนผิว วันละ 1-4 ครั้ง เป็นประจำทุกวันจนอาการดีขึ้น
รักษาหูดหรือตาปลา
- ยาทา
ผู้ใหญ่ ทายาความเข้มข้น 5-17 เปอร์เซ็นต์ ลงบนผิว ปล่อยทิ้งไว้ให้แห้ง แล้วจึงทายาซ้ำ 1-2 ครั้ง/วัน จนกว่าตาปลาหรือหูดจะหลุดออก
- ยาชนิดแผ่นแปะ
ผู้ใหญ่ ใช้ยาชนิดแผ่นแปะความเข้มข้น 12-40 เปอร์เซ็นต์ แปะทิ้งไว้ 48 ชั่วโมง จากนั้นจึงดึงแผ่นแปะออก แล้วใช้แผ่นใหม่แปะซ้ำจนหูดหรือตาปลาหลุดออก ซึ่งอาจต้องใช้เวลาหลายสัปดาห์
การใช้ Salicylic Acid
- ก่อนใช้ยา ควรอ่านฉลากยาทุกครั้ง และใช้ยาตามคำสั่งแพทย์อย่างเคร่งครัด ไม่ใช้ยาปริมาณเกินกว่าหรือนานกว่าระยะเวลาที่แพทย์กำหนด และไม่ใช้ยารักษาโรคผิวหนังอื่น ๆ โดยไม่ปรึกษาแพทย์
- ควรทดสอบการแพ้ทางผิวหนังก่อนเริ่มใช้ยา เพื่อป้องกันอาการแพ้และการระคายเคือง โดยทายาลงบนผิวเป็นจุดเล็ก ๆ ต่อเนื่องนาน 3 วัน หากไม่มีอาการแพ้จึงเริ่มใช้ยาตามปริมาณที่แพทย์สั่งได้ในวันถัดไป
- สำหรับการใช้ยารักษาหูดและตาปลา ให้ทำความสะอาดผิวหนังบริเวณนั้นด้วยแปรง ผ้าขนหนู หรือตะไบเล็บ เพื่อกำจัดผิวหนังที่ลอกออกก่อน จากนั้น ชะโลมน้ำลงบนผิวประมาณ 5 นาที ก่อนเริ่มใช้ยา
- ควรใช้ยา Salicyclic Acid อย่างต่อเนื่องตามคำแนะนำของแพทย์ เพื่อเกิดประสิทธิผลทางการรักษาสูงสุด ซึ่งอาจใช้เวลาหลายสัปดาห์กว่าจะเริ่มเห็นผล หากอาการไม่ดีขึ้น ควรปรึกษาแพทย์เพื่อปรับเปลี่ยนปริมาณหรือชนิดของยา
- กรณีที่ลืมทายาตามเวลาที่กำหนด ให้ทายาทันทีที่จำได้ แต่หากใกล้รอบเวลาถัดไปที่ต้องทายา ให้ข้ามไปทายารอบถัดไปในปริมาณปกติ ไม่ควรทายาเกินปริมาณที่แพทย์สั่ง
- ควรเก็บรักษายาในอุณหภูมิห้อง ให้ห่างจากความร้อน ความชื้น และแสงแดด เพราะอาจทำให้ยาเสื่อมสภาพได้
ผลข้างเคียงจากการใช้ Salicyclic Acid
การใช้ Salicyclic Acid อาจเกิดผลข้างเคียงที่พบได้ทั่วไป เช่น ผิวหนังระคายเคืองเล็กน้อย มีผื่นคัน ผิวหนังลอก และมีอาการแสบ อย่างไรก็ตาม ผู้ป่วยควรหยุดใช้ยาทันที และรีบไปพบแพทย์ หากปรากฏอาการดังต่อไปนี้
- อาการแพ้ยาและผิวหนังระคายเคืองอย่างรุนแรง รู้สึกคัน เป็นลมพิษ เวียนศีรษะ มีอาการบวมที่ปาก ลิ้น หน้า และคอ
- หายใจลำบาก
- เวียนศีรษะคล้ายจะเป็นลม
- ปวดศีรษะอย่างรุนแรง
- ได้ยินเสียงในหู มีปัญหาในการได้ยิน
- ปวดท้องรุนแรง อาเจียน และท้องเสีย