Tretinoin (เตรทติโนอิน)
Tretinoin (เตรทติโนอิน) เป็นยากลุ่มกรดวิตามินเอหรือยาเรตินอยด์ ออกฤทธิ์ต่อการเจริญเติบโตของเซลล์ผิวหนัง นำมาใช้รักษาสิว โดยจะช่วยลดจำนวนและความรุนแรงของสิว ช่วยให้สิวหายเร็วขึ้น และอาจใช้รักษาโรคอื่น ๆ ตามดุลยพินิจของแพทย์
ยา Tretinoin มีข้อห้ามใช้และอาจเกิดผลข้างเคียงได้ ดังนั้น การใช้ยาควรอยู่ภายใต้คำแนะนำของแพทย์และเภสัชกรเสมอ
เกี่ยวกับยา Tretinoin
กลุ่มยา | ยากลุ่มกรดวิตามินเอ |
ประเภทยา | ยาตามใบสั่งแพทย์ |
สรรพคุณ | รักษาสิว |
กลุ่มผู้ป่วย | ผู้ใหญ่ |
รูปแบบของยา | ยาใช้ภายนอก |
คำเตือนในการใช้ยา Tretinoin
- แจ้งให้แพทย์ทราบก่อนใช้ยาTretinoin หากมีประวัติแพ้ยาหรือส่วนประกอบของยาชนิดนี้ และแพ้ยาชนิดอื่น อาหาร หรือสารใด ๆ
- ห้ามให้เด็กใช้ยานี้โดยไม่ปรึกษาแพทย์ ซึ่งไม่อนุญาตให้ใช้ยา Tretinoin บางชนิดกับผู้ที่มีอายุต่ำกว่า 18 ปี
- แจ้งให้แพทย์ทราบก่อนใช้ยาหากเป็นโรคผิวหนังอักเสบเรื้อรัง (Eczema) หรือแพ้ปลา เพราะยาชนิดเจลอาจมีส่วนประกอบจากปลา
- ผู้ที่ตั้งครรภ์ วางแผนมีบุตร หรืออยู่ในช่วงให้นมบุตร ควรปรึกษาแพทย์ถึงข้อดีและข้อเสียของยาก่อนใช้เสมอ
- ระวังอย่าให้ยาสัมผัสดวงตา ปาก รอยพับข้างจมูก และช่องคลอด
- ระหว่างที่ใช้ยา ให้หลีกเลี่ยงการสัมผัสกับแสงแดดเพราะผิวจะไวต่อแสง โดยให้ใช้ครีมกันแดดหรือสวมใส่เสื้อผ้าป้องกันแสงแดดเวลาออกกลางแจ้ง
- ระหว่างที่ใช้ยาให้หลีกเลี่ยงผลิตภัณฑ์ที่อาจทำให้เกิดการระคายเคือง เช่น สบู่ แชมพู สีย้อมผม ผลิตภัณฑ์ที่ใช้กับผิวหนังที่มีส่วนผสมของแอลกอฮอล์ เครื่องเทศ มะนาว หรือยาสมานแผล เป็นต้น
ปริมาณการใช้ยา Tretinoin
ปริมาณและระยะเวลาในการใช้ยาขึ้นอยู่กับดุลยพินิจของแพทย์ผู้รักษา โดยมีตัวอย่างการใช้ยา ดังนี้
รักษาสิว
ผู้ใหญ่ ใช้ยาชนิดครีม เจล และสารละลายความเข้มข้น 0.01-0.1 เปอร์เซ็นต์ ทาวันละ 1-2 ครั้ง โดยทั่วไปจะใช้ในเวลาก่อนนอน โดยให้ทำความสะอาดความมันและความแห้งส่วนเกินบนผิวหนังออกก่อนทายา และอาจสังเกตการตอบสนองของยาได้เมื่อผ่านไป 6-8 สัปดาห์
การใช้ยา Tretinoin
- ใช้ยาตามฉลากและตามคำสั่งแพทย์อย่างเคร่งครัด หากมีข้อสงสัยควรสอบถามแพทย์หรือเภสัชกรก่อนใช้ยาเสมอ
- หลีกเลี่ยงการใช้ยาในปริมาณมากกว่าที่แพทย์สั่ง เพราะเสี่ยงเกิดผลข้างเคียงจากยาได้
- ยา Tretinoin ชนิดใช้ภายนอกต้องใช้สำหรับทาผิวหนังเท่านั้น ห้ามนำไปรับประทาน
- ห้ามใช้ยาบนผิวหนังที่ไหม้แดด หรือผิวหนังอักเสบ
- ล้างมือก่อนและหลังใช้ยา โดยก่อนทายาให้ทำความสะอาดผิวหนังบริเวณที่จะใช้ยาและเช็ดให้แห้งก่อนเสมอ เพราะหากทายาลงบนผิวที่เปียกอาจทำให้เกิดอาการระคายเคืองได้
- ห้ามทำความสะอาดหรือใช้ผลิตภัณฑ์อื่น ๆ ในบริเวณที่ใช้ยาอย่างน้อย 1 ชั่วโมง
- การใช้ยา Tretinoin เป็นเพียงส่วนหนึ่งของการรักษา ผู้ป่วยควรดูแลด้านอื่น ๆ ควบคู่กันไปด้วย เช่น ใช้ครีมกันแดด และสวมเสื้อผ้าป้องกันแสงแดด เป็นต้น
- หลังใช้ยา Tretinoin อาจต้องใช้เวลาหลายสัปดาห์อาการจึงจะดีขึ้น หากอาการไม่ดีขึ้นควรแจ้งให้แพทย์ทราบ
- ในระหว่างที่ใช้ยา อาการของสิวอาจแย่ลงในช่วงระยะเวลาสั้น ๆ และเมื่อเวลาผ่านไป อาการจะดีขึ้นเอง
- หากอาการระคายเคืองผิวรุนแรงขึ้น หรืออาการของสิวไม่ดีขึ้นภายใน 8-12 สัปดาห์ ให้ไปพบแพทย์ทันที
- ควรใช้ยาจนครบกำหนดตามที่แพทย์สั่ง
- ห้ามเก็บยา Tretinoin ชนิดเจลไว้ใกล้กับบริเวณที่มีความร้อนสูงหรือใกล้ไฟ และห้ามสูบบุหรี่จนกว่ายาจะแห้ง เพราะยาติดไฟได้ง่าย
- หากลืมใช้ยาตามเวลาที่กำหนดให้ใช้ยาทันทีที่นึกขึ้นได้ แต่หากใกล้ถึงเวลาใช้ยาในรอบถัดไป ให้ข้ามไปใช้ยารอบต่อไป ห้ามเพิ่มปริมาณยาเป็น 2 เท่า
- หากสงสัยว่าตนใช้ยาเกินกว่าปริมาณที่กำหนด ควรแจ้งให้แพทย์ทราบทันที
- เก็บยาไว้ที่อุณหภูมิห้อง ให้ห่างจากความร้อนและความชื้น โดยปิดฝาบรรจุภัณฑ์ให้สนิททุกครั้งหลังใช้
ผลข้างเคียงจากการใช้ยา Tretinoin
การใช้ยา Tretinoin อาจทำให้เกิดผลข้างเคียงที่พบได้บ่อย เช่น เจ็บ แสบ แดง คัน หรือระคายเคืองผิวหนัง เจ็บคอ รู้สึกอุ่น ๆ บริเวณผิวหนัง ชา หรือผิวหนังเปลี่ยนสีบริเวณที่ทายา เป็นต้น แต่หากพบผลข้างเคียงที่รุนแรงหรือมีอาการแพ้ยา ควรรีบไปพบแพทย์ทันที เช่น
- อาการแพ้ยา เช่น ลมพิษ หายใจลำบาก หน้าบวม คอบวม ลิ้นบวม และริมฝีปากบวม เป็นต้น
- แสบอย่างรุนแรง ระคายเคือง หรือชาบริเวณที่ใช้ยา
- ผิวแห้งหรือผิวแดงอย่างรุนแรง บวม เกิดแผลพุพอง ผิวลอก หรือตกสะเก็ด
- ผิวอาจไวต่อสภาพอากาศมากกว่าปกติ เช่น สภาพอากาศที่หนาวเย็น หรือมีลมพัด เป็นต้น
นอกจากนี้ หากผู้ป่วยพบอาการผิดปกติใด ๆ เพิ่มเติม ควรแจ้งให้แพทย์ทราบด้วยเช่นกัน