การใส่ถุงยางอนามัยขณะมีเพศสัมพันธ์เป็นวิธีที่ดีที่สุดในการป้องกันปัญหาท้องไม่พร้อมและโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ ซึ่งการศึกษาวิธีใส่ถุงยางที่ถูกต้องนั้นถือเป็นเรื่องสำคัญ เพื่อให้มั่นใจว่าจะสามารถป้องกันภาวะต่าง ๆ รวมถึงการตั้งครรภ์ได้อย่างมีประสิทธิภาพ
ในปัจจุบัน มีถุงยางอนามัยทั้งสำหรับผู้ชายและผู้หญิงให้เลือกใช้ ซึ่งมีวิธีการใส่และข้อควรระวังในการใช้งานที่แตกต่างกันไป ดังนี้
วิธีใส่ถุงยางอนามัยสำหรับผู้ชาย
ผู้ชายที่เป็นฝ่ายป้องกันจำเป็นต้องสวมใส่ถุงยางอนามัยทุกครั้งก่อนมีเพศสัมพันธ์เพศ ไม่ว่าจะเป็นทางช่องคลอด ทางทวารหนัก หรือทางปาก โดยควรเลือกถุงยางที่มีขนาดเหมาะสมกับอวัยวะเพศของตนเองและตรวจดูให้แน่ใจก่อนเสมอว่าถุงยางอนามัยอยู่ในสภาพที่พร้อมใช้งาน ไม่ฉีกขาด รั่ว ชำรุด เสื่อมสภาพ หรือหมดอายุ
วิธีใส่ถุงยางอนามัยสำหรับผู้ชายที่ถูกต้อง ปฏิบัติได้ตามขั้นตอนดังต่อไปนี้
- ฉีกซองบรรจุภัณฑ์ด้วยความระมัดระวัง ไม่ควรใช้ปากกัดหรือใช้เล็บจิก เพื่อป้องกันการฉีกขาดของถุงยางอนามัย
- สวมถุงยางอนามัยในขณะที่อวัยวะเพศชายแข็งตัวเต็มที่เท่านั้น โดยใช้นิ้วชี้และนิ้วโป้งบีบที่ปลายกะเปาะถุงยางเพื่อไล่อากาศด้านในออก ซึ่งจะช่วยป้องกันถุงยางอนามัยหลุดระหว่างใช้งาน
- ค่อย ๆ รูดม้วนถุงยางอนามัยลงมาจนถึงโคนอวัยวะเพศ หากไม่สามารถรูดลงมาได้แสดงว่าใส่กลับด้าน ในกรณีนี้ให้เปลี่ยนถุงยางอนามัยชิ้นใหม่ เพราะอาจมีอสุจิปนออกมากับน้ำหล่อลื่นและติดอยู่ที่ถุงยางอนามัยชิ้นเดิม แม้จะยังไม่มีการหลั่งน้ำอสุจิก็ตาม
- หากเป็นถุงยางอนามัยแบบไม่มีที่สำหรับเก็บน้ำอสุจิ ควรเหลือบริเวณส่วนปลายกะเปาะของถุงยางไว้ประมาณ 0.5 นิ้ว เพื่อป้องกันถุงยางอนามัยแตกระหว่างใช้งาน
- หลังเสร็จสิ้นกิจกรรมทางเพศ ให้รีบถอดถุงยางอนามัยในขณะที่อวัยวะเพศชายยังแข็งตัวอยู่ เพื่อไม่ให้ถุงยางหลุดอยู่ในช่องคลอดหรือทวารหนัก โดยจับส่วนฐานของถุงยางและค่อย ๆ นำอวัยวะเพศออกจากร่างกายของอีกฝ่ายอย่างระมัดระวัง เพราะน้ำอสุจิอาจหกหรือไหลออกมาได้
- ใช้กระดาษทิชชู่ห่อถุงยางอนามัยแล้วนำไปทิ้งลงถังขยะ แต่ไม่ควรทิ้งลงในชักโครกเพราะอาจทำให้ท่ออุดตันหรือเกิดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมตามมา
วิธีใส่ถุงยางอนามัยสำหรับผู้หญิง
ถุงยางอนามัยสำหรับผู้หญิงมีลักษณะคล้ายถุงที่มีวงแหวนด้านหนึ่งเป็นปลายปิด และอีกด้านหนึ่งเป็นปลายเปิด โดยสามารถใส่ไว้ในช่องคลอดก่อนมีเพศสัมพันธ์ได้นานถึง 8 ชั่วโมง
วิธีใส่ถุงยางอนามัยสำหรับผู้หญิงที่ถูกต้อง ปฏิบัติได้ตามขั้นตอนดังต่อไปนี้
- ฉีกซองบรรจุภัณฑ์ด้วยความระมัดระวังเพื่อป้องกันการฉีกขาดของถุงยางอนามัย
- ใช้มือข้างที่ถนัดบีบส่วนปลายปิดของถุงยางอนามัยหรือวงแหวนด้านที่มีขอบยางหนาให้มีขนาดเล็กลง จากนั้นจึงสอดเข้าไปในช่องคลอดโดยใช้มืออีกข้างหนึ่งจับเปิดแคมอวัยวะเพศไว้
- ใช้นิ้วชี้ นิ้วกลาง หรืออาจใช้ทั้ง 2 นิ้ว สอดเข้าไปภายในถุงยางอนามัยและดันส่วนปลายถุงยางอนามัยให้เข้าไปถึงบริเวณปากมดลูก หลังจากนั้นถุงยางจะคลายตัวและขยายออกเอง
- จัดตำแหน่งปลายเปิดของถุงยางอนามัยหรือวงแหวนด้านที่มีขอบยางบางให้อยู่บริเวณปากอวัยวะเพศหญิง และไม่พลิกกลับหรือพับงอ
- ขณะมีเพศสัมพันธ์ ต้องสอดใส่อวัยวะเพศชายตรงกลางถุงยางอนามัย และหากขอบถุงยางอนามัยหลุดเข้าไปภายในช่องคลอด ควรหยุดกิจกรรมทางเพศก่อนและจัดวางถุงยางอนามัยให้อยู่ในตำแหน่งที่เหมาะสมดังเดิม
- หลังเสร็จสิ้นการมีเพศสัมพันธ์ ให้บิดวงแหวนด้านนอกของถุงยางอนามัยเพื่อป้องกันน้ำอสุจิไหลหรือหกออกมา แล้วดึงถุงยางออกจากอวัยวะเพศหญิง จากนั้นจึงห่อถุงยางอนามัยที่ใช้แล้วด้วยกระดาษทิชชู่และทิ้งลงถังขยะให้เรียบร้อย
ทำอย่างไรเมื่อเกิดปัญหาจากการใช้ถุงยางอนามัย ?
หากพบปัญหาจากการใช้ถุงยางอนามัยอย่างถุงยางแตก ฉีกขาด หรือรั่ว ให้หยุดกิจกรรมทางเพศทันทีแล้วเปลี่ยนถุงยางอนามัยชิ้นใหม่ และควรป้องกันปัญหานี้โดยใช้สารหล่อลื่นชนิดน้ำ หลีกเลี่ยงการใช้โลชั่น น้ำมัน หรือสารหล่อลื่นที่มีส่วนผสมของน้ำมัน เพราะอาจเสี่ยงทำให้ถุงยางแตก รวมทั้งห้ามใช้ทั้งถุงยางผู้หญิงและถุงยางผู้ชายในคราวเดียวกัน เนื่องจากจะทำให้เกิดการเสียดสีกันจนถุงยางฉีกขาดได้
นอกจากนี้ หากพบว่าถุงยางหลุดระหว่างที่มีเพศสัมพันธ์ ควรไปพบแพทย์หรือเภสัชกรโดยเร็วที่สุด เพื่อขอคำแนะนำเกี่ยวกับการคุมกำเนิดฉุกเฉิน และเข้ารับการตรวจสุขภาวะทางเพศหรือโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ภายใน 14 วัน หรืออาจเร็วกว่านั้นในกรณีที่มีอาการต่าง ๆ ที่น่าสงสัยเกิดขึ้น