อาการมะเร็งตับ และสัญญาณที่ควรสังเกต

มะเร็งตับเป็นเนื้องอกชนิดร้ายอันเกิดจากความผิดปกติของเซลล์ตับ หากปล่อยทิ้งไว้เป็นเวลานานก็อาจลุกลามและเป็นอันตรายถึงชีวิตได้ ดังนั้น การหมั่นสังเกตอาการมะเร็งตับจึงเป็นเรื่องสำคัญที่อาจช่วยให้ผู้ป่วยรู้ตัวเร็วและเข้ารับการรักษาได้ทันการณ์ โดยมะเร็งตับมีอาการอะไรบ้างนั้น ศึกษาได้จากบทความนี้

อาการมะเร็งตับ

มะเร็งตับเป็นอย่างไร ?

มะเร็งตับเป็นมะเร็งชนิดหนึ่งที่เกิดขึ้นบริเวณตับ ซึ่งอาจเกิดจากดีเอ็นเอในเซลล์ตับเกิดการกลายพันธุ์จนไปเปลี่ยนแปลงกระบวนการการทำงานปกติของร่างกาย ทำให้ทำให้เซลล์นั้นเกิดความผิดปกติและกลายเป็นเนื้อร้ายที่แพร่กระจายอย่างควบคุมไม่ได้ในท้ายที่สุด โดยโรคนี้มักพบได้บ่อยในผู้ชายไทยที่ป่วยเป็นมะเร็ง

ทั้งนี้ ผู้ที่ป่วยเป็นโรคไวรัสตับอักเสบบีหรือซี โรคตับแข็ง โรคตับที่สืบทอดทางพันธุกรรมบางชนิด โรคเบาหวาน โรคไขมันพอกตับที่ไม่ได้เกิดจากการดื่มแอลกอฮอล์ ผู้ที่ได้รับสารพิษอะฟลาท็อกซิน และผู้ที่ดื่มแอลกอฮอล์มากเกินไป อาจมีความเสี่ยงในการเกิดมะเร็งตับได้เช่นกัน แม้มะเร็งตับจะเป็นโรคที่คร่าชีวิตผู้ป่วย แต่หากมะเร็งยังไม่ลุกลามรุนแรงก็อาจรักษาให้หายได้ด้วยวิธีการรักษาที่เหมาะสม

อาการมะเร็งตับมีอะไรบ้าง ?

ผู้ป่วยส่วนใหญ่มักไม่มีสัญญาณหรือแสดงอาการมะเร็งตับในระยะเริ่มแรก แต่มักพบได้ในระยะท้าย ๆ โดยมีตัวอย่างอาการที่อาจเกิดขึ้นดังต่อไปนี้

  • น้ำหนักลดลงโดยไม่ทราบสาเหตุ
  • เบื่ออาหาร หรือรู้สึกอิ่มมากหลังจากรับประทานอาหารเพียงเล็กน้อย
  • ปวดท้องส่วนบน หรือท้องบวม
  • คลื่นไส้ อาเจียน
  • อ่อนแรงและอ่อนเพลีย
  • ผิวหนังหรือตาเหลือง
  • อุจจาระมีสีซีด
  • ตับโตขึ้นจนรู้สึกเหมือนมีก้อนยู่ใต้ซี่โครงด้านขวา
  • ม้ามโตขึ้นจนรู้สึกเหมือนมีก้อนอยู่ใต้ซี่โครงด้านซ้าย
  • มีอาการคัน
  • มีไข้
  • มีเส้นเลือดขอดปรากฏบริเวณหน้าท้อง
  • เกิดรอยฟกช้ำง่าย หรือมีเลือดออกผิดปกติ

นอกจากนี้ มะเร็งตับบางชนิดยังอาจหลั่งฮอร์โมนที่ส่งผลต่ออวัยวะส่วนอื่น ๆ แต่มักพบได้น้อยมาก ซึ่งทำให้เกิดอาการ เช่น

  • มีภาวะแคลเซียมในเลือดสูง ทำให้เกิดอาการ เช่น สับสน ท้องผูก อ่อนแรง หรือปัญหาเกี่ยวกับกล้ามเนื้อ เป็นต้น
  • มีภาวะน้ำตาลในเลือดต่ำ ซึ่งอาจทำให้ผู้ป่วยเหนื่อยล้าหรือหมดสติได้
  • มีภาวะผู้ชายมีนม หรืออัณฑะหดตัวลง
  • มีภาวะเลือดข้นที่ส่งผลให้ผู้ป่วยหน้าแดง หรือมือและเท้าแดง
  • มีระดับคอเลสเตอรอลในเลือดสูง

อย่างไรก็ตาม หากผู้ป่วยพบสัญญาณหรืออาการใด ๆ รวมถึงได้รับการวินิจฉัยว่าป่วยเป็นโรคที่ส่งผลต่อตับอย่างโรคตับแข็งหรือโรคไวรัสตับอักเสบซี และมีสุขภาพแย่ลงอย่างรวดเร็ว ควรรีบไปพบแพทย์ เพื่อเข้ารับการวินิจฉัยและรับการรักษาเสียแต่เนิน ๆ  

วิธีป้องกันอาการมะเร็งตับ

โดยปกติ การป้องกันอาการมะเร็งตับทำได้ด้วยการลดความเสี่ยงต่าง ๆ เช่น หลีกเลี่ยงการดื่มแอลกอฮอล์และการสูบบุหรี่ ควบคุมน้ำหนักไม่ให้มากเกินไป ระมัดระวังสารเคมีในอาหารที่อาจก่อให้เกิดมะเร็งตับอย่างอะฟลาท็อกซินหรือสารหนู สวมถุงยางอนามัยก่อนการมีเพศสัมพันธ์ทุกครั้ง ไม่ใช้เข็มฉีดยาร่วมกับผู้อื่นหรือเลือกร้านสักที่ใช้เข็มสักที่สะอาดและปลอดภัย ฉีดวัคซีนป้องกันไวรัสตับอักเสบบี และเข้ารับการรักษาโรคทางพันธุกรรมที่อาจส่งผลต่อตับอย่างภาวะเหล็กเกิน เป็นต้น นอกจากนี้ ยังควรเข้ารับการตรวจคัดกรองมะเร็งตับโดยเฉพาะผู้ป่วยที่มีความเสี่ยงในการเป็นมะเร็งชนิดนี้ ซึ่งช่วยให้ผู้ป่วยรู้ตัวได้เร็วยิ่งขึ้นและเข้ารับการรักษาได้อย่างทันท่วงที