ด้วยความที่อาการแพ้ยา (Drug Allergy) กับผลข้างเคียงจากยา (Side Effect) เป็นภาวะที่เกิดขึ้นหลังจากการใช้ยาเหมือนกัน ทำให้เกิดความสับสนระหว่างสองภาวะนี้ บางคนก็ว่าเหมือนกัน บางคนก็บอกแตกต่างกัน
เมื่อใดที่มีการใช้ยาแล้วเกิดอาการไม่พึงประสงค์ตามมาก็มักจะถูกเรียกกันไปว่าแพ้ยา แต่จริง ๆ แล้วอาการแพ้ยานั้นต่างจากผลข้างเคียงจากยา บทความนี้จะบอกถึงกลไกของและลักษณะอาการที่มักพบบ่อยจาก 2 ภาวะนี้ เพื่อการใช้ยาอย่างปลอดภัย
ลักษณะอาการแพ้ยาและผลข้างเคียงจากยา
อาการแพ้ยาและผลข้างเคียงจากยาเป็นภาวะที่แตกต่างกัน โดยแต่ละภาวะจะมีลักษณะสำคัญดังนี้
อาการแพ้ยา
อาการแพ้ยาเป็นผลมาจากระบบภูมิคุ้มกันของร่างกายตอบสนองต่อสารบางชนิดในตัวยาผิดปกติไปในลักษณะคล้ายกับการตอบสนองต่อเชื้อโรคหรือสิ่งแปลกปลอม สามารถเกิดขึ้นได้จากยาและสมุนไพรทุกชนิด โดยอาจเกิดในครั้งแรกที่ใช้ยาหรือเกิดเมื่อใช้ยาชนิดเดิมซ้ำ
โดยผู้ที่มีปัจจัยเสี่ยงต่อการแพ้ยาได้สูง คือ คนในครอบครัวมีประวัติแพ้ยา ต้องใช้ยาในปริมาณมาก ใช้ยาซ้ำ หรือใช้ยาติดต่อกันเป็นระยะเวลานาน มีประวัติเกิดอาการแพ้ชนิดอื่นอย่างแพ้อาหาร และป่วยเป็นไข้ละอองฟาง โดยทั่วไปจะแบ่งอาการแพ้ยาได้เป็น 2 ลักษณะคือ แบบฉับพลัน และแบบไม่ฉับพลัน
อาการแพ้ยาแบบไม่ฉับพลันมักจะเกิดขึ้นหลังจากได้รับยาไปแล้วเกิน 1 ชั่วโมง และอาการมักไม่ค่อยรุนแรง เช่น มีผื่นแดงขึ้น คันตา หรือปวดตามข้อ แต่ก็มีบางกรณีเช่นกันที่เกิดอาการรุนแรงที่ควรไปพบแพทย์ทันที เช่น ผิวลอก เกิดแผลพุพอง ไข้ขึ้น อ่อนเพลีย หน้าบวม หรือเกิดแผลบริเวณเยื่อบุดวงตา ริมฝีปาก และอวัยวะเพศ
ส่วนอาการแพ้ยาแบบฉับพลันหรือทางการแพทย์เรียกว่า Anaphylaxis อาการมักจะแสดงภายใน 1 ชั่วโมงหลังจากใช้ยา ถือเป็นอาการแพ้รุนแรงที่ส่งผลกระทบต่อระบบการทำงานของอวัยวะในร่างกายหลายส่วน เช่น
- หายใจไม่ออก
- หัวใจเต้นผิดจังหวะ
- คลื่นไส้ อาเจียน ปวดท้องรุนแรง
- ใบหน้าและริมฝีปากบวม
- ท้องเสีย
- เกิดลมพิษ
- เวียนศีรษะ
- ชัก
- สูญเสียการรับรู้รอบตัว หรือหมดสติ
อาการแพ้ยาขึ้นอยู่กับภูมิคุ้มกันของแต่ละคน หากอาการรุนแรงสามารถทำให้เสียชีวิตได้เลย โดยเฉพาะอาการแพ้ยาแบบฉับพลัน ผู้ที่เกิดอาการแพ้ยาในลักษณะข้างต้นควรหยุดใช้ยาและไปพบแพทย์ทันที
ผลข้างเคียงจากยา
ผลข้างเคียงจากยาพบได้บ่อยกว่าอาการแพ้ยา เกิดจากกลไกการทำงานของยาที่มีต่อร่างกาย สามารถเกิดขึ้นได้จากยาทุกชนิดเช่นกัน อาการมีตั้งแต่ไม่รุนแรงไปจนถึงอาการที่รุนแรงขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย เช่น ชนิดของยา อายุ โรคประจำตัว ปริมาณการใช้ยา หรือการใช้ยา สมุนไพร หรือผลิตภัณฑ์อาหารเสริมอื่นร่วมด้วยในขณะนั้น
ผลข้างเคียงจากยามักเป็นอาการที่ไม่ค่อยรุนแรง เช่น ปากแห้ง ง่วงซึม ปวดท้อง ท้องเสีย ปวดกล้ามเนื้อ หรือปัสสาวะบ่อย โดยมากอาการจะค่อย ๆ ดีขึ้นและหายได้เองหลังจากที่หยุดใช้ยา แต่ก็มีบางกรณีเช่นกันที่ยาอาจส่งผลกระทบต่ออวัยวะในร่างกายไปจนถึงเสี่ยงต่อการเสียชีวิต แต่พบได้น้อย
อาการแพ้ยาหรือผลข้างเคียงจากยาอาจเป็นอันตรายต่อผู้ใช้ยาได้เหมือนกัน ก่อนใช้ยาใด ๆ ควรอ่านฉลากยาเสมอ สอบถามแพทย์หรือเภสัชกรถึงผลข้างเคียงจากยาและอาการอันตรายที่ควรรีบไปพบแพทย์ หากเกิดอาการผิดปกติใด ๆ ควรไปพบแพทย์ พร้อมกับนำยาที่ใช้ติดตัวไป สำหรับคนที่เกิดผื่นขึ้นหลังใช้ยาควรรีบถ่ายรูปผื่นไว้ให้แพทย์ตรวจด้วย เนื่องจากผื่นบางชนิดอาจเกิดขึ้นและหายไปในระยะเวลาไม่นาน