โจโจ้บาออยล์ กับนานาประโยชน์ต่อสุขภาพ

โจโจ้บาออยล์ เป็นน้ำมันที่สกัดจากเมล็ดของโจโจ้บา โดยเมล็ดของพืชชนิดนี้ยังสามารถสกัดออกมาเป็นไขหรือแว็กซ์ และยังนำมาใช้เป็นส่วนประกอบของผลิตภัณฑ์หลากหลายประเภท เช่น แชมพู ลิปสติก เครื่องสำอาง ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาด โลชั่นบำรุงผิวหน้า มือและร่างกาย เป็นต้น นอกจากนั้น โจโจ้บาออยล์ยังมีประโยชน์ต่อสุขภาพโดยอาจช่วยบำรุงและฟื้นฟูผิวหนังด้วย

สารทางธรรมชาติในโจโจ้บาอาจมีประโยชน์ต่อสุขภาพร่างกาย จึงมีการศึกษาค้นคว้าประสิทธิภาพของโจโจ้บาเพื่อนำมาใช้ในการแพทย์ โดยโจโจ้บานั้นอุดมไปด้วยวิตามินและแร่ธาตุที่สำคัญต่อร่างกายนานาชนิด ซึ่งอาจมีส่วนช่วยในการบำรุงเส้นผมได้ เช่น วิตามินซี วิตามินบีรวม วิตามินอี ทองแดง และสังกะสี เป็นต้น

คุณประโยชน์ของโจโจ้บาออยล์

สารสกัดจากโจโจ้บาอาจส่งผลดีต่อสุขภาพโดยเฉพาะผิวหนัง เนื่องจากประกอบไปด้วยสารสำคัญมากมาย จึงมีงานวิจัยบางส่วนค้นคว้าเกี่ยวกับคุณประโยชน์ทางด้านผิวหนังของโจโจ้บาออยล์ไว้ ดังนี้

รักษาสิวให้ผิวสวย 

สิวเกิดจากการอุดตันของน้ำมันและเซลล์ผิวหนังที่ตายแล้วบริเวณรูขุมขน ซึ่งมักพบมากในหมู่วัยรุ่น โดยสิวมีหลายประเภท เช่น สิวหัวดำ สิวหัวหนอง สิวตุ่ม เป็นต้น ทั้งนี้ เชื่อกันว่าโจโจ้บาออยล์อาจมีคุณประโยชน์ในการรักษาสิว จึงได้มีการศึกษาค้นคว้าโดยให้ผู้ที่มีสิวจำนวนหนึ่งทำแบบสอบถามเกี่ยวกับการใช้มาส์กบำรุงผิวหน้าชนิดโคลนที่มีส่วนผสมของโจโจ้บาออยล์ หลังใช้ไปแล้ว 6 สัปดาห์ ผลปรากฏว่า ผลิตภัณฑ์ดังกล่าวอาจมีประสิทธิภาพในการรักษารอยโรคที่ผิวหนังและสิวที่ไม่รุนแรงได้ ดังนั้น ผลิตภัณฑ์ฟื้นฟูผิวที่มีโจโจ้บาออยล์เป็นส่วนประกอบก็อาจเป็นอีกทางเลือกหนึ่งที่ผู้ใช้สามารถลองพิสูจน์ด้วยตัวเองโดยไม่น่าจะเป็นอันตราย แต่การศึกษาดังกล่าวเป็นเพียงการรวบรวมคำตอบจากแบบสอบถามเท่านั้น จึงควรมีการศึกษาทดลองเพิ่มเติมต่อไปเพื่อให้ทราบถึงประสิทธิภาพของโจโจ้บาออยล์อย่างชัดเจนนั่นเอง

ลดการระคายเคืองจากการใช้ยาบางชนิด 

ยารักษาสิวที่มีส่วนผสมของเรตินอยด์อย่างยาทาซาโรทีนทำให้เกิดผลข้างเคียงต่อร่างกายไม่มากก็น้อย เช่น มีอาการคัน หรือระคายเคือง ผิวแห้ง แดง ลอก หรือรู้สึกแสบผิว เป็นต้น จึงมีการค้นคว้าวิจัยในหนูทดลองเกิดขึ้น พบผลลัพธ์ว่า โจโจ้บาออยล์อาจมีคุณสมบัติในการลดการระคายเคืองที่เกิดจากยาทาซาโรทีน เพิ่มการสมานตัวของผิว และยังทำให้ผลการรักษาของผู้ป่วยโรคสะเก็ดเงินดีขึ้นด้วย อย่างไรก็ตาม ยังต้องมีการศึกษาเพิ่มเติมในมนุษย์เพื่อยืนยันประสิทธิภาพของโจโจ้บาออยล์ก่อนการสรุปผล เนื่องจากการวิจัยในครั้งนี้เป็นเพียงการศึกษาในสัตว์เท่านั้น

รักษาบาดแผล 

มีการศึกษาค้นคว้าในหลอดทดลองและเซลล์ผิวหนังของมนุษย์พบว่า ผลิตภัณฑ์จากโจโจ้บาอาจช่วยเร่งกระบวนการสมานแผลของผิวหนังชั้นนอกและเซลล์ผิวหนังบางชนิด จึงนำมาใช้ในการรักษาบาดแผลในทางการแพทย์ได้ แต่การศึกษาดังกล่าวยังต้องมีการค้นคว้าในด้านนี้เพิ่มเติมต่อไป เพื่อให้มั่นใจถึงคุณประโยชน์ของโจโจ้บาออยล์ในด้านการรักษาบาดแผลที่ผิวหนังมากยิ่งขึ้น

นอกจากนั้น โจโจ้บาออยล์ยังอาจนำมาใช้เพื่อการรักษาและป้องกันโรคหรือภาวะอื่น ๆ เช่น อัลไซเมอร์ โรคสะเก็ดเงิน เป็นต้น รวมถึงช่วยบำรุงเส้นผมและใช้ทากันยุงอีกด้วย แต่ยังจำเป็นต้องมีหลักฐานเพิ่มเติมเพื่อยืนยันสิทธิภาพหรือความปลอดภัยของโจโจ้บาออยล์หากต้องการใช้เป็นยารักษานั่นเอง

ใช้โจโจ้บาออยล์อย่างไร ให้ได้ประโยชน์และปลอดภัยต่อสุขภาพ ?

แม้การนำโจโจ้บาออยล์มาใช้ทาผิวหนังค่อนข้างปลอดภัยต่อสุขภาพของทั้งคนทั่วไปและผู้ที่กำลังตั้งครรภ์หรือผู้ที่ให้นมบุตร แต่ก็อาจทำผู้ที่ใช้ผลิตภัณฑ์ดังกล่าวเกิดอาการแพ้ ทำให้มีผลข้างเคียงอย่างผื่นลมพิษหรืออาการคัน อย่างไรก็ตาม การรับประทานโจโจ้บาออยล์อาจไม่ปลอดภัยต่อสุขภาพนัก เนื่องจากในโจโจ้บาออยล์มีสารเคมีที่เรียกว่ากรดอีรูซิก ซึ่งก่อให้เกิดผลข้างเคียงที่รุนแรงโดยสร้างความเสียหายต่อหัวใจได้

ในปัจจุบัน ยังไม่มีการศึกษาวิจัยเพียงพอที่จะกำหนดปริมาณการใช้โจโจ้บาออยล์ที่เหมาะสมและเป็นประโยชน์ต่อสุขภาพมากที่สุด ดังนั้น จึงควรปรึกษาแพทย์หรือเภสัชกรก่อนการใช้งาน หรือทำการทดสอบอาการแพ้ทางผิวหนังอย่างการติดแผ่นทดสอบสารก่อภูมิแพ้ (Patch Test) หากต้องการนำโจโจ้บาออยล์มาใช้เพื่อหวังผลทางการรักษา ยิ่งไปกว่านั้นผู้ใช้ผลิตภัณฑ์จากโจโจ้บาควรคำนึงถึงข้อพึงระวังต่าง ๆ เพื่อป้องกันผลกระทบต่อสุขภาพในภายหลัง เช่น 

• ระมัดระวังการทาโจโจ้บาออยล์ติดต่อกันเป็นระยะเวลานาน เพราะอาจส่งผลให้ผิวหนังเกิดการระคายเคือง
• ไม่ควรนำโจโจ้บาออยล์บริสุทธิ์มาใช้ทาที่ผิวหนังโดยตรง แต่ควรนำมาผสมน้ำมันชนิดอื่น ๆ เช่น เจลว่านหางจระเข้ น้ำมันมะพร้าว เป็นต้น 
• ห้ามรับประทานโจโจ้บาออยล์ เพราะอาจเป็นส่งผลเสียต่อสุขภาพหัวใจ

สุดท้ายนี้ หากโจโจ้บาออยล์ทำให้เกิดการระคายเคืองหรือมีอาการแพ้ควรหยุดใช้ผลิตภัณฑ์ดังกล่าว ทำความสะอาดบริเวณที่ทาโจโจ้บาออยล์ให้เรียบร้อย และไปพบแพทย์ทันที เพื่อเข้ารับการรักษาที่ถูกต้องเหมาะสมต่อไป