ไขข้อข้องใจ สาเหตุการเกิดร่องแก้ม กับหลากวิธีแก้ไข

ร่องแก้ม เป็นริ้วรอยหรือเส้นลึกที่เกิดขึ้นบริเวณใต้ปีกจมูกไปจนถึงมุมปาก ซึ่งจะเห็นได้ชัดเจนเมื่อกล้ามเนื้อบนใบหน้าเคลื่อนไหว โดยเฉพาะเมื่อยิ้มหรือหัวเราะ ร่องแก้มจัดเป็นปัญหาผิวรูปแบบหนึ่งที่พบได้บ่อย แต่คนมีร่องแก้มลึกอาจรู้สึกสูญเสียความมั่นใจเมื่อแสดงอารมณ์ผ่านทางสีหน้า และยังทำให้ดูแก่กว่าวัยอีกด้วย

เนื้อเยื่อและกล้ามเนื้อบริเวณแก้ม คาง และรอบปากอาจหย่อนคล้อยลงเมื่ออายุมากขึ้น ทำให้เกิดร่องแก้มลึกบนใบหน้า ปัญหาร่องแก้มสามารถรักษาให้ริ้วรอยจางลงได้หลายวิธี สามารถหาคำตอบได้จากบทความนี้

ร่องแก้ม

สาเหตุของการเกิดร่องแก้ม

ร่องแก้มเกิดได้จากหลายสาเหตุ ทั้งปัจจัยภายในร่างกายและปัจจัยภายนอกจากสภาพแวดล้อม โดยมักพบได้จากสาเหตุต่อไปนี้

  • อายุที่เพิ่มขึ้น คอลลาเจนใต้ผิวหนังอาจเสื่อมสลาย โครงสร้างของกระดูกโหนกแก้มอาจเปลี่ยนแปลงไป จึงทำให้ผิวหนังบริเวณแก้มหย่อนคล้อยลงและยิ่งกดทับให้เกิดร่องแก้มลึกยิ่งขึ้น
  • การสูบบุหรี่ ความร้อนจากบุหรี่และการใช้งานกล้ามเนื้อบริเวณปากและแก้มระหว่างการสูบบุหรี่ อาจส่งผลต่อกล้ามเนื้อใบหน้า ทำให้เกิดริ้วรอยที่ร่องแก้มได้มากขึ้น นอกจากนี้ สารเคมีในบุหรี่อาจทำลายคอลลาเจนและอีลาสติน (Elastin) ในผิวหนัง ทำให้ผิวเกิดความหย่อนคล้อยและเหี่ยวย่น
  • การสัมผัสแสงแดดจัด รังสียูวีในแสงแดดเป็นอีกตัวการหนึ่งที่ทำลายคอลลาเจนและอีลาสตินในผิวหนัง ทำให้ผิวสูญเสียความยืดหยุ่นและเกิดริ้วรอยก่อนวัย 
  • การเปลี่ยนแปลงของน้ำหนักตัว เมื่อรูปร่างอ้วนขึ้น ผิวหนังจะขยายตัวออกเป็นระยะเวลานาน คอลลาเจนและอีลาสตินในผิวจะถูกทำลายไป เมื่อลดน้ำหนักลง ผิวหนังกลับคืนสู่สภาพเดิมได้ยาก ทำให้ผิวหย่อนคล้อย ขาดความกระชับ และเกิดริ้วรอยได้

นอกจากนี้ ปัจจัยอื่นที่อาจทำให้เกิดร่องแก้ม ได้แก่ การนอนตะแคงบ่อย ๆ สภาพผิวที่แห้งกร้าน และการถ่ายทอดทางพันธุกรรม

สารพัดวิธีลดร่องแก้ม

วิธีแก้ไขปัญหาร่องแก้มมีหลายวิธี ทั้งการใช้ผลิตภัณฑ์ทาผิว การศัลยกรรม และการผ่าตัด ซึ่งควรปรึกษาแพทย์ผิวหนังเพื่อตรวจหาสาเหตุและเลือกวิธีที่เหมาะสมกับสภาพผิวแต่ละคน

การใช้ครีมทาผิว

การใช้ผลิตภัณฑ์ทาผิวที่สามารถหาซื้อได้ทั่วไป ถือเป็นตัวเลือกหนึ่งที่นิยมใช้ในการลดเลือนริ้วรอยที่ร่องแก้ม โดยเฉพาะครีมที่มีส่วนผสมของเรตินอล ซึ่งช่วยให้ผลัดเซลล์ผิวที่ตายแล้ว กระตุ้นการสร้างเซลล์ผิวใหม่ขึ้นทดแทน ชะลอการเสื่อมสลายของคอลลาเจน และช่วยให้ผิวชั้นในแข็งแรง จึงช่วยลดการเกิดริ้วรอยบนผิวหนังได้

นอกจากนี้ ครีมที่มีส่วนผสมของวิตามินซี เปปไทด์ (Peptides) กรดไฮดรอกซี (Hydroxy Acids) หรือน้ำมันหอมระเหยที่ผ่านกระบวนการเจือจางให้เหมาะกับการทาผิวหนังบางชนิด อาจช่วยลดริ้วรอยได้เช่นกัน อย่างไรก็ตาม การใช้ผลิตภัณฑ์ทาผิวอาจใช้ระยะเวลานานกว่าจะเห็นผลและมักให้ผลการรักษาเพียงชั่วคราว

การฉีดฟิลเลอร์ (Fillers)

การฉีดฟิลเลอร์เป็นวิธีที่นิยมใช้ในการรักษาปัญหาร่องแก้มมากที่สุด โดยจะฉีดสารเข้าไปในชั้นผิวหนังเพื่อช่วยแก้ไขปัญหาผิว อย่างรอยสิว เติมเต็มผิวหนังบริเวณที่เสื่อมสภาพและมีริ้วรอย หรือเพื่อปรับแต่งรูปหน้าที่บริเวณต่าง ๆ อย่างคางหรือปาก โดยฟิลเลอร์ที่นิยมใช้คือ กรดไฮยาลูรอน (Hyaluronic Acids) จัดเป็นสารสำคัญในผิวหนังที่ช่วยกักเก็บความชุ่มชื้นในผิว ทำให้ผิวยืดหยุ่นและลดการเกิดริ้วรอยตามวัย 

การฉีดฟิลเลอร์ไม่จำเป็นต้องใช้เวลาพักฟื้นนาน และผลลัพธ์จากการฉีดฟิลเลอร์สามารถอยู่ได้เป็นระยะเวลาประมาณ 6–12 เดือน แต่บางคนอาจเกิดผลข้างเคียง อย่างอาการแพ้ ผิวบริเวณที่ฉีดมีรอยช้ำ หรืออาการอื่น ๆ

การร้อยไหม

การร้อยไหมเป็นหนึ่งในวิธียกกระชับผิวและแก้ไขปัญหาริ้วรอยบริเวณร่องแก้ม โดยใช้ไหมละลายสอดเข้าไปใต้ผิวเพื่อกระตุ้นให้เนื้อเยื่อบริเวณร่องแก้มกระชับขึ้น ถือเป็นอีกวิธีที่ได้รับความนิยมเนื่องจากเหมาะสำหรับผู้ที่ไม่พร้อมเข้ารับการผ่าตัด และผู้ที่ไม่ต้องการใช้เวลาพักฟื้นนาน 

การร้อยไหมมักเห็นผลด้านความกระชับของผิวทันที แต่จะเห็นผลชัดเจนยิ่งขึ้นหลังการร้อยไหมประมาณ 2–3 วัน หรือภายหลังที่อาการบวมช้ำเริ่มทุเลาลง โดยผลลัพธ์จากการร้อยไหมจะอยู่ได้ประมาณ 1–3 ปี และแพทย์อาจแนะนำให้ใช้วิธียกกระชับอื่น ๆ ร่วมด้วยในภายหลังเพื่อผลลัพธ์ที่ดียิ่งขึ้น

การผ่าตัดร่องแก้ม

การผ่าตัดเป็นทางเลือกสำหรับผู้ที่มีปัญหาร่องแก้มลึกและต้องการผลลัพธ์ที่ยาวนาน โดยการผ่าตัดจะดึงผิวหนังในส่วนที่หย่อนคล้อยให้กระชับขึ้น ช่วยลดรอยเหี่ยวย่นและริ้วรอยลึกที่เกิดจากวัย แต่อาจมีค่าใช้จ่ายสูง ใช้ระยะเวลาพักฟื้นนาน และมีโอกาสเกิดภาวะแทรกซ้อนหลังการผ่าตัด เช่น รอยแผลเป็น อาการปวดบวมบริเวณที่ผ่าตัด หรือมีเลือดคั่งใต้ผิวหนังได้ ทั้งนี้ ผลลัพธ์อาจอยู่ยาวนานประมาณ 10 ปีหลังการผ่าตัด และผิวหนังอาจกลับมาหย่อนคล้อยได้อีกเมื่อระยะเวลาผ่านไป

การแก้ไขปัญหาร่องแก้มมีหลายวิธี จึงควรปรึกษาแพทย์ผิวหนังก่อนการตัดสินใจใช้วิธีรักษาใด โดยแพทย์จะช่วยประเมินปัญหาผิวและเลือกวิธีที่เหมาะสม อย่างไรก็ตาม ปัญหาร่องแก้มและริ้วรอยก่อนวัยสามารถป้องกันได้ด้วยการดูแลผิวให้ชุ่มชื้น ทาครีมกันแดด รับประทานอาหารที่มีประโยชน์ โดยเฉพาะอาหารที่มีสารต้านอนุมูลอิสระสูง หลีกเลี่ยงการสูบบุหรี่ และควบคุมน้ำหนัก เพื่อช่วยให้ผิวสุขภาพดีและดูอ่อนเยาว์