ซิลเดนาฟิล (Sildenafil)
Sildenafil (ซิลเดนาฟิล) เป็นยารักษาภาวะหย่อนสรรถภาพทางเพศ (Erectile Dysfunction) หรือนกเขาไม่ขันในเพศชายที่ใช้ควบคู่กับการกระตุ้นอารมณ์ทางเพศ โดยตัวยาจะออกฤทธิ์คลายหลอดเลือด ช่วยเพิ่มการไหลเวียนเลือดของอวัยวะเพศชายและทำให้เกิดการแข็งตัว นอกจากนี้ ยา Sildenafil ยังใช้รักษาภาวะความดันหลอดเลือดแดงปอดสูง (Pulmonary Arterial Hypertension)
ทั้งนี้ ยา Sildenafil ไม่สามารถป้องกันโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ อย่างการติดเชื้อเอชไอวี ไวรัสตับอักเสบบี โรคหนองใน หรือโรคซิฟิลิส ผู้ป่วยจึงควรป้องกันด้วยการสวมถุงยางอนามัยทุกครั้ง เพื่อการมีเพศสัมพันธ์ที่ปลอดภัยต่อตัวเองและอีกฝ่าย
เกี่ยวกับยา Sildenafil
กลุ่มยา | ยายับยั้งเอนไซม์ฟอสโฟไดเอสเทอเรส (Phosphodiesterase Inhibitor) |
ประเภทยา | ยาตามใบสั่งแพทย์ |
สรรพคุณ | รักษาภาวะหย่อนสมรรถภาพทางเพศ และภาวะความดันหลอดเลือดแดงปอดสูง |
กลุ่มผู้ป่วย | ผู้ใหญ่ เด็ก |
รูปแบบของยา | ยาฉีด ยารับประทาน |
การใช้ยาในหญิงตั้งครรภ์และผู้ให้นมบุตร | Category B จากการศึกษาในสัตว์ ไม่พบความเสี่ยงในการทำให้เกิดความผิดปกติของตัวอ่อนในครรภ์สัตว์ แต่ไม่มีการศึกษาในมนุษย์หรืออาจพบผลไม่พึงประสงค์ในสัตว์ และยังไม่พบความเสี่ยงในมนุษย์เมื่อใช้ในช่วงสามเดือนแรกของการตั้งครรภ์ รวมทั้งไม่มีหลักฐานทางการศึกษาที่แสดงให้เห็นว่า มีความเสี่ยงเมื่อใช้ในช่วงหลังเดือนที่สามเป็นต้นไป |
คำเตือนในการใช้ยา Sildenafil
เพื่อให้เกิดความปลอดภัยในการใช้ยา ผู้ป่วยควรระมัดระวังและปฏิบัติตามคำแนะนำต่อไปนี้
- แจ้งให้แพทย์ทราบก่อนใช้ยาหากมีประวัติแพ้ยาหรือส่วนประกอบของยานี้ รวมถึงยาและสารอื่น ๆ เพราะอาจเป็นอันตรายต่อร่างกาย
- แจ้งให้แพทย์ทราบเกี่ยวกับยา วิตามิน หรือสมุนไพรทุกชนิดที่ผู้ป่วยกำลังใช้อยู่ เพราะยาบางชนิดอาจทำปฏิกิริยากับยานี้จนก่อให้เกิดผลข้างเคียงที่รุนแรงหรือทำให้ยามีประสิทธิภาพลดลง โดยเฉพาะยาภาวะความดันหลอดเลือดแดงปอดสูง ยาภาวะหย่อนสมรรถภาพทางเพศชนิดอื่น ยาโรคความดันโลหิต ยาโรคต่อมลูกหมากโต ยาต้านเชื้อรา และยาต้านเอชไอวีหรือโรคเอดส์
- ผู้ป่วยที่มีประวัติทางสุขภาพควรแจ้งให้แพทย์ทราบก่อนการใช้ยา อาทิ มีปัญหาหัวใจ โรคความดันโลหิต มีปัญหาการไหลเวียนโลหิต โรคอาร์พี (Retinitis Pigmentosa) ตาข้างใดข้างหนึ่งหรือทั้งสองข้างสูญเสียการมองเห็น ภาวะขาดน้ำอย่างรุนแรง มีเลือดออกในร่างกาย แผลในกระเพาะอาหาร โรคหลอดเลือดดำปอดอุดตัน โรคตับ โรคไต โรคเซลล์เม็ดเลือด องคชาตมีลักษณะผิดรูป ภาวะองคชาตแข็งค้าง หรือได้รับคำแนะนำไม่ให้มีเพศสัมพันธ์เพราะเหตุผลทางสุขภาพ
- ห้ามใช้ยา Sildenafil ร่วมกับยาในกลุ่มไนเตรท (Nitrates) เช่น ยาไนโตรกลีเซอรีน (Nitroglycerin) ยาไอโซซอร์ไบด์โมโนไนเตรต (Isosorbide Mononitrate) และยาไอโซซอร์ไบด์ไดไนเตรต (Isosorbide Dinitrate) หรือยาอื่นที่มีส่วนผสมของยาไนเตรท อย่างยาเอมิลไนไตรท์ (Amyl Nitrite) เพราะอาจทำให้ความดันโลหิตต่ำลงอย่างรุนแรงฉับพลัน
- ยานี้อาจทำให้เลือดไหลเวียนไปเลี้ยงเส้นประสาทตาน้อยลง ส่งผลให้สูญเสียการมองเห็นฉับพลันได้ แต่พบในผู้ป่วยน้อยราย และส่วนมากเคยมีปัญหาสุขภาพมาก่อน เช่น มีปัญหาหัวใจ โรคเบาหวาน โรคความดันโลหิตสูง มีปัญหาเกี่ยวกับดวงตา สูบบุหรี่ หรือมีอายุมากกว่า 50 ปี ซึ่งในปัจจุบันยังไม่ทราบแน่ชัดว่ายานี้เป็นสาเหตุของปัญหาดังกล่าว
- หลีกเลี่ยงการขับขี่ยานพาหนะ การใช้เครื่องจักร หรือการทำกิจกรรมที่ต้องอาศัยความตื่นตัวอยู่เสมอขณะใช้ยานี้ เพราะตัวยาอาจทำให้เวียนศีรษะและมีปัญหาในการมองเห็น
- ควรจำกัดปริมาณการดื่มแอลกอฮอล์ขณะใช้ยานี้ เพราะอาจทำให้เวียนศีรษะมากขึ้น
- หลีกเลี่ยงการรับประทานเกรปฟรุต (Grapefruit) หรือผลิตภัณฑ์จากเกรปฟรุตขณะใช้ยานี้ เพราะอาจทำปฏิกิริยากับยาและก่อให้เกิดผลข้างเคียงที่ไม่พึงประสงค์
- ผู้ป่วยภาวะความดันหลอดเลือดแดงปอดสูงที่วางแผนจะตั้งครรภ์ กำลังตั้งครรภ์ และให้นมบุตรในขณะที่ใช้ยานี้ ควรปรึกษาแพทย์ถึงความเสี่ยงต่อทารกในครรภ์และทารกในระหว่างให้นมบุตร เพราะยาอาจส่งผลกระทบต่อทารกในครรภ์ และอาจซึมผ่านน้ำนมมารดาไปสู่ทารกได้ แต่ไม่ควรหยุดใช้ยาโดยปราศจากคำสั่งจากแพทย์
- ไม่อนุญาตให้ใช้ยา Sildenafil ในเด็กอายุ 18 ปี โดยปราศจากคำสั่งจากแพทย์
ปริมาณการใช้ยา Sildenafil
ปริมาณและระยะเวลาในการใช้ยาขึ้นอยู่กับดุลยพินิจของแพทย์ผู้รักษา โดยมีตัวอย่างการใช้ยาดังนี้
ภาวะหย่อนสมรรถภาพทางเพศ
ตัวอย่างการใช้ยา Sildenafil เพื่อรักษาภาวะหย่อนสมรรถภาพทางเพศ
ผู้ใหญ่ รับประทานยาปริมาณ 50 มิลลิกรัม 1 ครั้ง/วัน ก่อนการมีเพศสัมพันธ์ประมาณ 1 ชั่วโมงหรือปรับระยะเวลาในการรับประทานตามการตอบสนองต่อยา ปริมาณยาสูงสุดไม่เกิน 100 มิลลิกรัม/วัน
ภาวะความดันหลอดเลือดแดงปอดสูง
ตัวอย่างการใช้ยา Sildenafil เพื่อรักษาภาวะความดันหลอดเลือดแดงปอดสูง
ผู้ใหญ่ รับประทานยาปริมาณ 5 หรือ 20 มิลลิกรัม 3 ครั้ง/วัน สำหรับยาฉีดทางหลอดเลือดจะใช้ยาปริมาณ 2.5 หรือ 10 มิลลิกรัม 3 ครั้ง/วัน
เด็กอายุ 1–17 ปี หากมีน้ำหนักน้อยกว่าหรือเท่ากับ 20 กิโลกรัม ให้รับประทานยาปริมาณ 10 มิลลิกรัม 3 ครั้ง/วัน หากมีน้ำหนักเกิน 20 กิโลกรัม ให้รับประทานยาปริมาณ 20 มิลลิกรัม 3 ครั้ง/วัน
การใช้ยา Sildenafil
วิธีการใช้ยาเพื่อความปลอดภัยมีดังนี้
- ใช้ยาตามฉลากและตามคำสั่งแพทย์อย่างเคร่งครัด ห้ามใช้ยานี้ในปริมาณมากกว่า น้อยกว่า หรือติดต่อกันนานกว่าที่แพทย์แนะนำ หากมีข้อสงสัยใด ๆ ควรปรึกษาแพทย์ก่อนรับประทานยา
- รับประทานยานี้พร้อมอาหารหรือไม่พร้อมอาหารก็ได้ แต่ห้ามรับประทานเกินวันละ 1 ครั้ง
- ยา Sildenafil แต่ละยี่ห้อมีระยะเวลาในการใช้ยาที่ต่างกัน ผู้ป่วยควรอ่านฉลากให้ถี่ถ้วนก่อนการรับประทาน
- ผู้ป่วยควรหลีกเลี่ยงมื้ออาหารที่มีไขมันสูง เพราะอาจส่งผลให้ยาออกฤทธิ์ช้าลงได้
- ผู้ป่วยจำเป็นต้องได้รับการกระตุ้นทางเพศด้วย เนื่องจากการรับประทานยาเพียงอย่างเดียวไม่ได้ช่วยให้อวัยวะเพศชายเกิดการแข็งตัวแต่อย่างใด
- ยา Sildenafil มักใช้เมื่อจำเป็น แต่หากผู้ป่วยมีตารางการใช้ยาที่ชัดเจนแล้วลืมรับประทานยา ให้รับประทานทันทีที่นึกขึ้นได้ หากใกล้ถึงช่วงเวลาของยารอบถัดไป ให้ข้ามไปรับประทานยาตามเวลาปกติ ห้ามเพิ่มปริมาณยาเป็น 2 เท่า
- หากผู้ป่วยสงสัยว่าตัวเองใช้ยาเกินปริมาณที่กำหนด ควรรีบไปพบแพทย์โดยเร็ว
- เก็บยาไว้ที่อุณหภูมิห้อง ให้ห่างจากความชื้น ความร้อน และแสงแดด โดยเก็บยาให้ห่างจากมือเด็กและสัตว์เลี้ยง
ผลข้างเคียงจากการใช้ยา Sildenafil
ยาซิลเดนาฟิลอาจก่อให้เกิดผลข้างเคียงทั่วไป เช่น หน้าแดง ปวดศีรษะ เวียนศีรษะ แสบร้อนกลางอก คลื่นไส้ ท้องไส้ปั่นป่วน มีปัญหาในการมองเห็น คัดจมูกหรือน้ำมูกไหล เลือดกำเดาไหล มีปัญหาในการนอนหลับ ปวดกล้ามเนื้อ ปวดหลัง เป็นต้น หากอาการเหล่านี้ไม่หายไปหรือทวีความรุนแรงขึ้น ควรแจ้งให้แพทย์ทราบตั้งแต่เนิ่น ๆ
นอกจากนี้ ผู้ป่วยบางรายอาจมีผลข้างเคียงรุนแรงต่อไปนี้เกิดขึ้นได้ แม้บางอาการจะพบได้น้อยมาก แต่ควรหยุดใช้ยาและหยุดทำกิจกรรมทางเพศแล้วไปพบแพทย์โดยด่วน
- มีสัญญาณของการแพ้ยา เช่น ผื่นคัน ลมพิษ เวียนศีรษะอย่างรุนแรง หายใจลำบาก มีอาการบวมบริเวณใบหน้า ริมฝีปาก ลิ้น และลำคอ เป็นต้น
- มีสัญญาณของอาการที่รุนแรงขณะทำกิจกรรมเพศสัมพันธ์ เช่น เวียนศีรษะหรือคลื่นไส้ รู้สึกเจ็บ ชา หรือเหมือนมีของแหลมทิ่มแทงที่หน้าอก แขน คอ หรือขากรรไกร เป็นต้น
- เจ็บขณะอวัยวะเพศแข็งตัว อวัยวะเพศแข็งตัวเป็นเวลานานกว่า 4 ชั่วโมง
- มีอาการของภาวะหัวใจขาดเลือด เช่น เจ็บหรือแน่นหน้าอก อาการเจ็บลามไปยังขากรรไกรหรือหัวไหล่ มีเหงื่อออกมากกว่าปกติ เป็นต้น
- หัวใจเต้นผิดปกติ
- หายใจลำบาก
- การมองเห็นเปลี่ยนแปลงไปจากเดิม หรือสูญเสียการมองเห็นฉับพลัน
- หูอื้อ หรือสูญเสียการได้ยินฉับพลัน
- มีอาการบวมบริเวณมือ ข้อเท้า หรือเท้า
- ชัก
- เวียนศีรษะคล้ายจะหมดสติ
อย่างไรก็ตาม หากผู้ป่วยรายใดใช้ยา Sildenafil แล้วพบผลข้างเคียงหรือความผิดปกติอื่น ๆ นอกเหนือจากนี้ ควรไปปรึกษาแพทย์เช่นกัน เพราะการวินิจฉัยหาสาเหตุได้เร็วอาจทำให้ผู้ป่วยหายจากอาการดังกล่าวได้เร็วยิ่งขึ้น