ปวดหน่วงท้องน้อยและอัณฑะ ปัสสาวะบ่อย ไปหาหมอบอกเป็นกระเพาะปัสาวะอักเสบ กินยาอาการดีขึ้น แต่ยังปัสสาวะมากกว่าปกติอยู่ ประมาณ 7-9 ครั้งต่อวัน

สวัสดีค่ะ คุณ ZQ Busy-Pug,

                  อาการปวดหน่วงท้องน้อยและอัณฑะ ปัสสาวะบ่อย อาจเกิดจาก

                  1. ท่อปัสสาวะหรือกระเพาะปัสสาวะอักเสบ ซึ่งจะทำให้มีปัสสาวะบ่อย ปัสสาวะขัด เจ็บขณะปัสสาวะ ปัสสาวะขุ่น มีเลือดปน ปวดท้องน้อยขณะปัสสาวะ เป็นต้น แต่มักไม่ได้ทำให้มีอาการปวดอัณฑะ

                 2. อัณฑะอักเสบ ซึ่งอาจเกิดจากเชื้อไวรัสที่ทำให้เกิดโรคคางทูม หรือหากมีเพศสัมพันธ์ ก็จะเกิดจากเชื้อแบคทีเรียที่เป็นโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ เช่น หนองในแท้ หนองในเทียม แต่นอกจากอาการปวดอัณฑะแล้ว จะมีอัณฑะบวมแดงร่วมด้วย มีเจ็บเวลาปัสสาวะหรือหลั่งน้ำอสุจิ ปัสสาวะบ่อย มีเลือดปน มีหนองตรงปลายท่อปัสสาวะ เป็นต้น

                  3. เป็นนิ่วในกระเพาะปัสสาวะ โดยมักทำให้มีปัสสาวะขัด และปัสสาวะลำบาก ปัสสาวะขุ่น มีตะกอนปน และมักมีปัสสาวะเป็นเลือด อาจมีปวดท้องน้อย แต่มักไม่ได้ทำให้มีอาการปวดอัณฑะ

                 4. ต่อมลูกหมากอักเสบเรื้อรัง แต่ก็จะมีอาการมานานเป็นเดือน อาการคือปวดท้องน้อย ถุงอัณฑะ บริเวณฝีเย็บไปถึงทวารหนัก หรือ อวัยวะเพศ ปวดเวลาหลั่งน้ำอสุจิ และอาจมีอาการผิดปกติในการปัสสาวะร่วมด้วย

                 ทั้งนี้ หากได้ไปพบแพทย์และได้ยามาทาน จนอาการปวดท้องน้อยและปวดอัณฑะหายไป เหลือแค่อาการปัสสาวะบ่อย แต่หากจำนวนครั้งที่ปัสสาวะคือ 7-9 ครั้ง ก็ยังไม่ได้ถือว่าผิดปกติ เพราะโดยปกติ เราจะปัสสาวะเฉลี่ย 6-8 ครั้งต่อวัน  ดังนั้น อาจลองสังเกตอาการต่อไปก่อน หากจำนวนครั้งของการปัสสาวะเริ่มมากขึ้น หรือกลับมามีอาการปวดท้องน้อยและปวดอัณฑะอีก ก็ควรไปพบแพทย์เฉพาะทางศัลยกรรมทางเดินปัสสาวะเพื่อหาสาเหตุต่อไปค่ะ