-
ตรวจหา HIV หลายครั้ง ผลปกติ แต่มีตุ่มใสที่ปลายอวัยวะเพศแล้วกลายเป็นแผล จะเป็น HIV ไหม
-
Aug 26, 2020 at 10:51 AM
รบกวนปรึกษาคุณหมอครับ คือผมไปมีเพศสัมพันธ์กับผู้หญิง แล้วเกิดกังวลกลัวการติดเชื้อHIV (มีเพศสัมพันธ์ใช้ถุงยางอนามัยนะครับ) มีเมื่อต้นปีนี้เดือนกุมภาปี63 จึงได้ทำการตรวจเลือด ในเดือนกุมภา/มีนาคม/พฤษภาคม/มิถุนายน/กรกฎาคม ตามเดือนที่แจ้งมาครับ ผลออกมาปกติทุกครั้ง แต่ที้ผมกังกวลคือ บริเวณหนังหุ้มปลายอวัยวะเพศ มีแผล ตอนแรกมันคันๆแล้วก็เป็นตุ่มใสๆจนตอนนี้กลายเป็นแผลแล้วครับ จะรบกวนคุณหมอว่า อาการนี้ใช่เสี่ยงต่อการติดเชื้อ HIVไหมครับ แล้วผมต้องไปเจาะเลือดตรวจอีกไหมครับAug 26, 2020 at 12:16 PM
สวัสดีค่ะ คุณ คนธรรมดา,
หากได้ตรวจหาการติดเชื้อ HIV ที่นานกว่า 1 เดือนหลังจากไปมีความเสี่ยงมา และได้ตรวจไปหลายครั้งแล้ว และผลออกมาปกติ คือไม่มีการติดเชื้อ ก็แสดงว่าไม่ได้มีการติดเชื้อ HIV และหากได้ตรวจหาซ้ำหลายครั้งแล้ว ก็ยังไม่พบ ก็เท่ากับไม่ได้มีการติดเชื้อ HIV แต่อย่างใดค่ะ ดังนั้น อาการที่หยังหุ้มปลายอวัยวะเพศมีแผล จึงไม่ได้เกิดจากการติดเชื้อ HIV อีกทั้งก็ไม่ใช่อาการของโรค HIV ด้วยเช่นกัน
ดังนั้น ตุ่มใสๆ ที่ขึ้นแล้วต่อมากลายเป็นแผล อาจเป็น
- เริมที่อวัยวะเพศ แต่จะมีอาการแสบร้อนหรือเจ็บปวดร่วมด้วย
- ติดเชื้อราที่อวัยวะเพศ
- ผื่นแพ้หรือระคายเคืองจากสารเคมีต่างๆ
- เป็นซิฟิลิส แผลริมอ่อน
แนะนำว่าควรไปพบแพทย์เพื่อตรวจว่าแผลที่มีอยู่นั้น เกิดจากสาเหตุใดค่ะ จะได้รักษาให้ตรงกับโรค ในเบื้องต้น ก็ไม่ควรไปแกะ เกาแผลค่ะ และควรงดการมีเพศสัมพันธ์ไปก่อน ไม่ทายาหรือครีมใดๆ ที่อวัยวะเพศค่ะ
-
ถามแพทย์
-
ตรวจหา HIV หลายครั้ง ผลปกติ แต่มีตุ่มใสที่ปลายอวัยวะเพศแล้วกลายเป็นแผล จะเป็น HIV ไหม