การขับถ่าย ลำไส้

สวัสดีค่ะ คุณผู้ใช้งาน,

               อาการถ่ายอุจจาระไม่สุด อุจจาระกะปริดกะปรอย ลักษณะของอุจจาระผิดปกติไป อาจเกิดจาก

               1. โรคลำไส้แปรปรวน จะวินิจฉัยจากอาการ คือ มีอาการปวดท้องอย่างน้อย 1 ครั้งต่อสัปดาห์ เป็นระยะเวลานาน 3 เดือนขึ้นไป โดยอาการปวดท้องจะพบร่วมกับอย่างน้อย 2 ใน 3 ข้อดังนี้

                   1.1 ปวดท้องสัมพันธ์กับการถ่ายอุจจาระ เช่น ปวดท้องก่อนการถ่ายอุจจาระ หรือถ่ายอุจจาระแล้วมีปวดท้อง

                   1.2 ปวดท้องเกิดร่วมกับการเปลี่ยนแปลงของความถี่ในการถ่ายอุจจาระ เช่น ปกติถ่ายวันละ 1 ครั้ง เปลี่ยนมาเป็น 2-3 วันถ่าย 1 ครั้ง

                   1.3  อาการปวดท้องเกิดร่วมกับการเปลี่ยนแปลงลักษณะของอุจจาระ  โดยมีอาการมานานอย่างน้อย 6 เดือน ซึ่งมีช่วงที่มีอาการต่อเนื่องอย่างน้อย 3 เดือน

               2. มีภาวะอุจจาระตกค้างในลำไส้ เกิดจากการมีท้องผูกบ่อยๆ เรื้อรัง ซึ่งอาการจะมีหลายอย่างๆได้แก่ ปวดท้อง ท้องอืด แน่นท้อง คลื่นไส้ อาเจียน รู้สึกว่าอุจจาระไม่สุด หรืออุจจาระไม่หมดท้อง ปัสสาวะบ่อยจากการที่กระเพาะปัสสาวะถูกกดทับ  ปวดหลังส่วนล่าง หายใจติดขัด ทานอาหารได้น้อย เบื่ออาหาร ผายลมบ่อย อ่อนเพลีย นอนไม่หลับ เป็นต้น

               3. ติดเชื้อพยาธิในลำไส้ อาจทำให้มีอาการปวดท้อง การถ่ายอุจจาระผิดปกติ นอกจากนี้ อาจทำให้มีคลื่นไส้ อ่อนเพลีย น้ำหนักลด เป็นต้น 

                4. เป็นมะเร็งลำไส้ มักทำให้ปวดท้องเรื้อรัง การถ่ายอุจจาระผิดปกติ อาจมีเลือดปน หรือถ่ายอุจจาระเป็นก้อนเล็กๆ ถ่ายไม่ออก ร่วมกับมีเบื่อาหาร น้ำหนักลด

                หากยังคงมีอาการถ่ายอุจจาระไม่สุด ลักษณะอุจจาระผิดปกติไป  แนะนำควรไปพบแพทย์เพื่อตรวจวินิจฉัยค่ะ ในเบื้องต้น ควรดื่มน้ำเปล่ามากๆ เลือกทานอาหารที่ย่อยง่าย งดการทานอาหารรสจัด ไม่ทานเผ็ด ลดการทานปริมาณเนื้อส์ตว์ลดลง รวมถึงอาจงดการดื่มนมวัว และผลิตภัณฑ์ต่างๆ จากนมไปก่อน เพราะบางคน หากทานมากไป อาจทำให้เกิดอาการถ่ายที่ผิดปกติได้จากการที่น้ำย่อยแลกโตสไม่เพียงพอ นอกจากนี้ควรทานอาหารที่ปรุงสุกสะอาดค่ะ ส่วนพรีไบโอติกส์ หากต้องการทาน ก็สามารถทานได้ โดยเลือกผลิตภัณฑ์ที่มีเลข อย. ถูกต้อง และทานตามที่ฉลากแนะนำ แต่หากทานแล้วอาการยังไม่ดีขึ้น ก็ควรหยุดทานไปค่ะ