ถามแพทย์

  • การตรวจสอบจอประสาทตานั้น ถ้าเหลือบตาไปมา จะส่งผลต่อผลตรวจไหม แล้ววุ้นตาเสื่อมเกิดขึ้นจากอะไร

  •  Tatree Phromdecha
    สมาชิก

    เมื่อวานไปหาหมอเเล้วเทสตรวจจอประสาทตา เพราะเวลาเหลือบตาซ้ายแบบสุดๆเเบบเพ่ง(เป็นการฝืนเหลือบแบบผิดธรรมชาติ คือถ้าจะเหลือบขนาดนี้ คนปกติคงหันหน้าไปแล้วด้วยเเทน)บวกกับหันคอไปทางตรงข้ามทิศที่เหลือบ จะเห็นเหมือนมีเลนส์นูนนิดนึงตรงหางตา เป็นเฉพาะข้างซ้ายครับบ อาการคือ ภาพจะเบี้ยวนิดนึงตรงหาตาและโฟกัสไม่ได้ชั่วขณะเหมือนภาพที่เกิดบนขอบเลนส์นูน เเละเกิดเเป๊ปเดียว เเล้วภาพก็จะกลับมาชัดเหมือนเดิม บางครั้งทำก็เห็นบ้างไม่เห็นบ้าง และเมื่อวานก็ได้ไปตรวจจอประสาทตากับคุณหมอครับ โดยหยอดยาขยายม่านตา เเล้วหมอก็ได้ถือเลนส์เพิ่มอีก1อันเเล้วให้เราเหลือบกลอกตาไปมาครับ เพื่อเช็คสภาพจอประสาทตา หมอบอกว่าเท่าที่ส่องดู ยังไม่เห็นอะไร เเต่หมอบอกว่า การตรวจแบบนี้อาจจะยังเห็นไม่ครบ อาจจะขาดภาพตรงขอบๆไปบ้าง เเต่หมอพยายามให้เหลือบสุดๆแล้ว เเละหมอก็ตรวจเเล้ว เเละก็ไม่มีอะไรหลุดลอก 

    ประวัติตาผม เคยทำprkในตาข้างนี้ เเละ เคยเป็นเริมในตามาประมาณ3ครั้ง ตอนนี้มีค่าสายตาข้างนี่สั้น75เอียงนิดหน่อยครับ

    คำถามคือ

    1.การตรวจจอประสาทตาด้วยการถือเลนส์เพิ่มเเล้วเหลือบตาไปมาเเล้วให้หมอดู เทียบ กับเครื่องถ่ายจอประสาทตาจริงๆ ขอบเขตการมองเห็นต่างกันมากจนควรไปตรวจกับเครื่องเพิ่มไหมครับ

    2.อาการที่ผมเห็นนี้ เกิดจากอะไรได้บ้างครับ เพราะผมก็ไม่เคยเป็นวุ้นตาเสื่อมเลยครับ เลยไม่รู็ว่าอาการที่เกิดขึ้นเกิดจากอะไร

    3.อาการที่เกิดขึ้นนี้เป็นอันตรายไหมครับ เพราะถ้าเหลือบตาแบบปกติไม่เพ่ง จะไม่เกิดิาการบิดเบี้ยวของภาพครับ

    4.อาการนี้อาจเกิดจากการที่เราเหลือบตา หันคอไปอีกด้าน(เหมือนพยายามฝืนให้ตาเหลือบอกไปอีก) เเล้วเพ่ง นี้ อาจเป็นสาเหตุให้เกิดภาพบิดเบี้ยวไหมครับ เพราะเหมือนเราไปฝืนสภาพที่ปกติของดวงตามากเกินไป

    Tatree Phromdecha  พญ.นรมน
    สมาชิก

    สวัสดีค่ะคุณผู้ใช้งาน

    การตรวจจอประสาทตา เป็นเครื่องวิเคราะห์ขั้วประสาทตา ชั้นของจอประสาทตา และจุดรับภาพ โดยใช้แสงเลเซอร์สแกนถ่ายภาพตามขวางเพื่อดูชั้นต่างๆ ของประสาทตาและดูความลึกของขั้วประสาทตา สามารถวิเคราะห์โรคของจอประสาทตาและโรคต้อหิน

    โดยระหว่างการทำการตรวจนั้น จะเป็นการใช้แสงส่องเข้าไปในตาให้ได้ภาพตัดขวางของจอตาออกมาเป็นภาพ 2 และ 3 มิติ ให้ความละเอียดในการวินิจฉัย สามารถแสดงให้เห็นจอตาคล้ายภาพที่ได้จากการตรวจชิ้นเนื้อด้วยกล้องจุลทรรศน์ 

    การที่กรอกตาหรือเหลือบตาขณะทำไม่น่าส่งผลต่อผลตรวจอย่างชัดเจนค่ะ โดยขณะทำ แพทย์จะมีการตรวจดูอยู่แล้วว่าสามารถมองเห็นตำแหน่งที่แปลผลได้ 

    ส่วนเรื่องวุ้นตาเสื่อมนั้นเกิดจากการที่สารประกอบของวุ้นในตาตกตะกอนลงมา เศษของวุ้นก็จะลอยไปลอยมาในลูกตา ทำให้เห็นเป็นจุดดำๆหรือเส้นดำๆ จะเห็นชัดขึ้นเมื่อมองแสงจ้าหรือมองไปยังพื้นหลังสีขาว เป็นโรคที่ไม่มีอันตรายโดยตัวของมันเอง คือเกิดจากความเสื่อมของวุ้นในตา มักเกิดในผู้ที่สายตาสั้นหรือเคยผ่าตัดหรือมีอุบัติเหตุในตา 

    โรควุ้นในตาเสื่อมจะมีอันตรายเมื่อเมื่อวุ้นในตาเสื่อมและหลุดออกมามากจนไปดึงจอประสาทตาให้หลุดออกมาด้วย จะเห็นเหมือนมีม่านดำลงมาบดบังการมองเห็น อันนี้เป็นสัญญาณเตือนว่าต้องไปพบจักษุแพทย์เพื่อรักษาทันที เพราะจอประสาทตาที่หลุดลอกอาจทำให้เสียการมองเห็นได้ สามารถใช้ชีวิตประจำวันได้ตามปกติ ไม่มีข้อห้าม ทำกิจกรรมได้ทุกอย่าง และถ้ามีสายตาสั้นอยู่ต้องใส่แว่นตาไว้ตลอดเวลาด้วยค่ะเพื่อไม่ให้สายตาสั้นมากขึ้นจะทำให้วุ้นในตาเสื่อมแย่ลงได้