ถามแพทย์

  • การรักษาไวรัสตับอักเสบบีทำได้อย่างไรบ้าง มีผลเลือดมาดังนี้

  •  Karnt
    สมาชิก

    เคยตรวจพบว่าติดไวรัสตับอักเสบบีเมื่อ 30 ปีที่แล้ว แต่ก็ไม่ได้สนใจ จนเดือนที่ผ่านมาไปตรวจสุขภาพประจำปีพบผลตรวจดังนี้ HBsAg ->positive,  Anti-Hbs->negative, Anti Hbc IgM->negative, Anti Hbc total->positive, Anti HBe->Positive, HBeAg->negative, HBV Viral load_PCR<10 IU/mL, AST = 31, ALT = 28 และตรวจตับด้วย Fibroscan ไม่มีภาวะพังผืดในตับ (CAP= 180 dB/m, E= 4.5 kPa) ต้องทำการรักษาหรือทำอย่างไรต่อครับ

    Karnt  พญ.นรมน
    แพทย์

    สวัสดีค่ะคุณ Karnt

    โรคไวรัสตับอักเสบ บี  คือโรคที่มีการติดเชื้อไวรัสตับอักเสบบีที่ตับ การติดเชื้อนี้อาจนำไปสู่โรคร้ายที่เป็นอันตรายต่อตับและชีวิตได้ในระยะยาว หากร่างกายกำจัดเชื้อออกไปไม่ได้ เช่น ตับวาย ตับแข็ง และมะเร็งตับ

    การติดเชื้อไวรัสตับอักเสบ บี สามารถติดต่อกันได้ผ่านทางสารคัดหลั่งที่มาจากร่างกาย เช่น ติดต่อได้ทางเลือด (การรับเลือดและผลิตภัณฑ์ของเลือด) ติดต่อผ่านเข็มฉีดยา การฝังเข็ม หรืออุปกรณ์ที่มีเชื้อปนเปื้อน หรือติดต่อได้จากการมีเพศสัมพันธ์ทางสารคัดหลั่ง

    ผู้ป่วยส่วนใหญ่หลังรับเชื้อมักจะสามารถกำจัดเชือออกไปได้ ร่างกายจะสร้างภูมิคุ้มกันขึ้นมาทำให้ไม่เกิดการติดเชื้ออีกในอนาคต แต่ในผู้ป่วยบางรายก็กำจัดเชื้อออกไปไม่ได้ เชื้อจะอยู่กับตัว แต่อาจจะอยู่ในระยะที่ไม่ทำลายตับ เรียกว่า พาหะของไวรัสตับอักเสบบี แต่ถ้าเชื้อทำลายตัวตับทำให้มีการอักเสบของตับเกิดขึ้น จะเรียกว่าเป็นโรคไวรัสตับอักเสบบี

    จากผลเลือดของคุณ Karnt นั้นน่าจะเป็นมีการติดเชื้อไวรัสตับอักเสบบีเรื้อรังค่ะ คือมีเชื้อในเลือด ไม่มีภูมิคุ้มกันต่อโรค แต่มีภูมิคุ้มกันชนิดที่บอกว่าเคยได้รับเชื้อไวรัสตับอักเสบบีมาแล้ว ควรยืนยันกับแพทย์ที่รักษาและติดตามค่าการทำงานของตับต่อไปด้วยค่ะ ว่ามีค่าการทำงานของตับผิดปกติหรือไม่ ถ้าใช่อาจจะต้องได้ยาฆ่าเชื้อไวรัสเพื่อป้องกันความเสียหายที่จะเกิดขึ้นกับตับได้ต่อไป

    ควรดูแลตัวเองโดยไม่ทำให้เกิดการแพร่เชื้อไปยังผู้อื่นดังช่องทางการติดต่อของโรคดังกล่าวไป งดดื่มแอลกฮอล์เพราะจะยิ่งทำลายตับมากขึ้น และควรระวังการติดไวรัสตับอักเสบชนิดอื่นๆมาเพิ่มอีก มีเพศสัมพันธ์ควรป้องกันทุกครั้ง และไม่ใช้ของมีคมร่วมกับผู้อื่นค่ะ