-
การเพิ่มปริมาณยาเพื่อลดความดันฯเบื้องต้นเองถูกต้องหรือไม่?
-
Dec 13, 2017 at 01:37 PM
สวัสดีครับ/รบกวนขอคำแนะนำด้วยครับ โดยมีข้อมูลประกอบดังนี้ครับ
คุณแม่มีประวัติรักษาต่อเนื่องที่ รพ.ชุมชนอำเภอ และรพ.ศูนย์ที่ตัวจังหวัด ขณะนี้ส่งตัว/พักรักษาโรคตา ที่กรุงเทพฯ แล้วมีอาการดังนี้(คนไข้ยังไม่สามารถไปพบแพทย์ที่ รพ.เดิมที่ ตจว.ได้ครับ)
อาการผิดปกติปัจจุบัน:
-คนไข้มีอาการปวดศรีษะด้านบนช่วงประมาณ 5 ทุ่มถึงตี 2 แล้วหายไปเอง(ขณะปวดไม่ได้ตรวจวัดความดัน)
--------------------------------
การตรวจสอบเองเบื้องต้น:
-ทำการวัดความดันโลหิตด้วยเครื่องวัดแบบพกพาเองได้ค่าแต่ละช่วงด้านล่างครับ
--------------------------------
การดำเนินการเองเบื้องต้น:
-เพิ่มปริมาณยาลดความดันโลหิต แอม-โล-ดิ-ปีน
--------------------------------
*** คำถาม ***
-หากสาเหตุการปวดศรีษะเกิดจากความดันโลหิตสูง การดำเนินการเบื้องต้นถูกต้องหรือไม่และปริมาณเหมาะสมหรือไม่ เพราะผลความดันฯยังสูงอยู่
-หากจำเป็นต้องใช้ยาลดความดันฯตัวอื่นควบคู่อีก จะสมควรหรือไม่ ขอคำแนะนำด้วยครับ
--------------------------------
ค่าความดันโลหิตปัจจุบันที่วัดได้(ขณะวัดไม่รู้สึกปวดหัว)
5-9/12/60 กินยาลดความดันโลหิต แอม-โล-ดิ-ปีน 5mg เช้า, ตามแพทย์สั่ง
5/12/60 08.00 น.วัดได้ 131/61
5/12/60 18.00 น.วัดได้ 139/666/12/60 08.00 น.วัดได้ 199/87
6/12/60 08.45 น.วัดได้ 136/70
6/12/60 16.00 น.วัดได้ 168/837/12/60 11.20 น.วัดได้ 139/68
9/12/60 12.30 น.วัดได้ 159/72 กลางคืนมีอาการปวดที่กลางหัวด้านบนแล้วหายไปเอง
10/12/60 กินยาลดความดันโลหิต แอม-โล-ดิ-ปีน 5mg เช้า,ตามแพทย์สั่ง(เพิ่มปริมาณเช้า 5mg และเย็น 10mg อีกรวมทั้งวัน 20mg)
10/12/60 08.00 น.วัดได้ 187/72
10/12/60 09.30 น.วัดได้ 193/87
10/12/60 14.00 น.วัดได้ 150/74
10/12/60 17.00 น.วัดได้ 161/75
10/12/60 17.00 น.วัดได้ 161/75
10/12/60 17.30 น.วัดได้ 145/81
10/12/60 18.00 น.วัดได้ 148/75
10/12/60 20.00 น.วัดได้ 174/83
10/12/60 21.30 น.วัดได้ 156/80
กลางคืนมีอาการปวดที่กลางหัวด้านบนแล้วหายไปเอง11/12/60 กินยาลดความดันโลหิต แอม-โล-ดิ-ปีน 5mg เช้า,ตามแพทย์สั่ง(เพิ่มปริมาณเช้า 5mg และเย็น 10mg อีกรวมทั้งวัน 20mg)
11/12/60 13.30 น.วัดได้ 137/66
11/12/60 19.00 น.วัดได้ 151/74
กลางคืนมีอาการปวดที่กลางหัวด้านบนแล้วหายไปเอง12/12/60 กินยาลดความดันโลหิต แอม-โล-ดิ-ปีน 5mg เช้า,ตามแพทย์สั่ง(เพิ่มปริมาณเช้า 5mg อีกรวมทั้งวัน 10mg)
12/12/60 06.20 น.วัดได้ 139/67
12/12/60 08.00 น.วัดได้ 143/68
12/12/60 10.40 น.วัดได้ 118/60
12/12/60 12.00 น.วัดได้ 113/58
12/12/60 14.00 น.วัดได้ 134/60
12/12/60 16.00 น.วัดได้ 133/69
12/12/60 17.30 น.วัดได้ 121/58
12/12/60 20.00 น.วัดได้ 140/71
12/12/60 21.45 น.วัดได้ 154/7313/12/60 กินยาลดความดันโลหิต แอม-โล-ดิ-ปีน 5mg เช้า,ตามแพทย์สั่ง(เพิ่มปริมาณเช้า 5mg อีกรวมทั้งวัน 10mg)
13/12/60 07.00 น.วัดได้ 139/66
13/12/60 10.00 น.วัดได้ 142/65
13/12/60 12.00 น.วัดได้ 140/65
อยู่ระหว่างตวจติดตามความดันฯต่อเนื่องต่อครับ
--------------------------------
ข้อมูลคนไข้
เพศ หญิง
อายุ 78 ปี
น้ำหนักประมาณ 39 ก.ก.
สูงประมาณ 145 ซ.ม.
--------------------------------
โรคประจำตัว
1)โรคไทรอยด์
2)โรคซีด
3)โรคความดันโลหิตสูง
4)โรคไต, เหลือประสิทธิภาพประมาณ 30%
5)โรคต้อหินตาทั้ง 2 ข้าง(ด้านขวาสูญเสียการมองเห็น, ตาด้านซ้ายอ่านตัวเลขที่ทดสอบได้เพียง 2 แถวบน)
6)โรคต้อกระจกตาข้างซ้าย
--------------------------------
ประวัติการรักษา
-โรคไทรอยด์,โรคซีด,โรคความดันโลหิตสูง,โรคไต รักษาที่ รพ.ชุมชนประจำอำเภอ, รพ.ศูนย์ที่จังหวัด(บางช่วงตามความเห็นแพทย์)
-โรคต้อหิน, โรคต้อกระจก ส่งตัวรักษาต่อที่ รพ.จุฬาฯ เมื่อเดือน ก.ค.2560 (ผ่าตัดต้อหินข้างซ้ายเมื่อ 9 ส.ค.2560, นัดผ่าตัดต้อกระจกข้างซ้าย 29/1/2561)
--------------------------------
ประวัติการใช้ยา, ตามแพทย์สั่ง
2/10/60 งดยา ซิม-วาส-แต-ติน
9/11/60 งดยา เอสไพริน, ยาธาตุเหล็ก
9/11/60 งดยา ไฮ-ดรา-ลา-ซีน 50mg/วัน
--------------------------------
ประวัติแพ้ยา/ไม่มี
--------------------------------
ยากินที่ใช้ปัจจุบัน, ตามแพทย์สั่ง
-ยาไทรอยด์, เล-โว-ไท-รอก-ซีน 100mcg 1 เม็ด, ก่อนอาหารเช้า
-ยาลดความดันโลหิต, แอม-โล-ดิ-ปีน 5mg, หลังอาหารเช้า
-วิตามินบำรุง, วิตามินบี คอมเพล็ก 1 เม็ด, หลังอาหารเช้า
-บำรุงเลือด, โฟ-ลิก 1 เม็ด, หลังอาหารเช้ายาหยอดที่ใช้ปัจจุบัน, ตามแพทย์สั่ง
ลดความดันตาขวา
-Azopt(brinzolamide 1%) Sterile ophthalmic suspension
เอซ็อป(น้ำยาแขวนตะกอนสำหรับหยอดตา บรินโซลามายด์) 1%
-Timolol maleate eye drops, 0.5% (ยาหยอดตา ทิโมลอล มาลีเอท, 0.5%)เจลแทนน้ำตาตาซ้าย-ขวา
-Vidisic Gel วิดีสิค เจล (ยาเจลหยอดตาสำหรับทดแทนน้ำตา)น้ำตาเทียม ปราศจากสารกันบูดตาซ้าย-ขวา
-Tears naturale free เทียร์ส แนทเชอราล ฟรีบรรเทาอาการอักเสบตาซ้าย
-Pred Forte เพรดฟอร์ท
--------------------------------Dec 13, 2017 at 04:19 PM
สวัสดีค่ะ คุณ Suthem @อาการปวดศีรษะสามารถเกิดได้จากหลายสาเหตุ เช่น การปวดศีรษะแบบเทนชั่น, การปวดศีรษะไมเกรน, พยาธิสภาพที่สมอง, ปวดจากการมีไข้, ปวดศีรษะจากความเครียด, จากการอักเสบรอบๆศีรษะ เช่น ฟันผุ หูอักเสบ ไซนัสอักเสบ กล้ามเนื้อคออักเสบ เป็นต้น **กรณีของคุณ Suthem ยังระบุสาเหตุของอาการปวดศีรษะไม่ได้นะคะ. แนะนำว่าหากมีอาการปวดศีรษะให้รับประทานยาพาราเซตามอลและนอนพัก ซึ่งหากอาการปวดศีรษะเป็นเรื้อรัง และมีอาการกำเริบบ่อยหรืออาการรุนแรง จนรบกวนชีวิตประจำวัน ควรปรึกษาแพทย์เพื่อตรวจวินิจฉัยและรับการรักษาอย่างเหมาะสมค่ะ ไม่ควรปรับยาลดความดันโลหิตเอง เพราะอาจทำให้เกิดความดันโลหิตต่ำ จนมีอาการวูบหมดสติหรือภาวะแทรกซ้อนอื่นได้ค่ะDec 13, 2017 at 04:31 PM
ครับ, ขอบคุณมากครับ
-
ถามแพทย์
-
การเพิ่มปริมาณยาเพื่อลดความดันฯเบื้องต้นเองถูกต้องหรือไม่?