ถามแพทย์

  • กินน้ำยาล้างห้องน้าที่ผสมกับน้ำเปล่า ไม่ได้ไปหาหมอ ผ่านมา 1 เดือน มีปวดแทสบท้อง ดูแลตัวเองอย่างไร

  •  tanaew83
    สมาชิก

    พอดีว่ามีครั้งนึงหนูคิดสั้น อยากฆ่าตัวตายขึ้นมา เลยตัดสินใจกินน้ำยาล้างห้องน้ำ แต่ว่าไม่ได้กินเพียวๆหนูผสมกับน้ำเปล่าไปด้วย กินไปประมาณ3อึกได้ค่ะ แล้วก็ไม่มีอะไรเกิดขึ้นตามมา ในตอนนั้นหนูก็เลยไม่ได้ไปหาหมอค่ะ
    ในระหว่างนั้นก็ไม่มีอาการอะไรเลยค่ะ ปกติมากๆ

    จนตอนนี้ผ่านมา1เดือน หนูมีอาการปวดท้องแบบแสบๆท้อง แต่ว่าไม่ได้ปวดมาก ปวดเป็นบางครั้ง อันนี้เกิดจากการที่กินน้ำยาล้างห้องน้ำไปรึป่าวคะ แล้วมีวิธีการดูแลรักษาตัวเองเบื้องต้นมั้ยคะ เพราะตอนนี้หนูยังไม่สามารถไปหาหมอเพื่อตรวจได้ค่ะติดสอบตลอดเลย

    ให้คำแนะนำหน่อยนะคะ ขอบคุณล่วงหน้าค่ะ

     

    สวัสดีค่ะ คุณ tanaew83,

                        การกินน้ำยาล้างห้องน้ำ ซึ่งมีความเป็นกรด ถือเป็นกลืนสารที่มีฤทธิ์กัดกร่อน เมื่อกลืนแล้ว จะเกิดเหตุการณ์ตามลำดับดังนี้

                    1. ในช่วง 4 วันแรก เซลล์เกิดการตายและเกิดขบวนการอักเสบตามมา ซึ่งทำให้เกิดอาการ ได้แก่ หายใจไม่ออกจากกล่องเสียงที่บีบรัดตัว  (laryngospasm) มีการสำลักกรดเข้าไปในปอดทำให้ปอดบวม  เกิดภาวะเลือดเป็นกรด และถ้าผู้ป่วยมีภาวะขาดน้ำร่วมด้วย ก็อาจทำให้้เกิดภาวะไตวายได้

                    2. การเกิดแผลและเนื้อเยื่อใหม่ เริ่มเกิดในวันที่ 3-5 หลังการบาดเจ็บ เนื้อเยื่อที่ตายหลุดลอกออก เกิดเป็นแผลที่ผิวเยื่อบุทางเดินอาหาร ก้นแผลมีการอักเสบ ในชวงนี้ ผนังของหลอดอาหารจะบางและอ่อนแอ ง่ายต่อการทะลุ

                    3. การหายของแผลและกลายเป็นแผลเป็น เริ่มเกิดในสัปดาห์ที่  2-3 จะมีการสร้างเนื้อเยื่อเกี่ยวพันมากขึ้นและหนาขึ้น ทำให้หลอดอาหารหดสั้นและตีบแคบ ซึ่งจะมีโอกาสเกิดหลอดอาหารตีบประมาณ 60% ภายในช่วง 1 เดือน  และเกิดประมาณ 80% ภายใน 2 เดือน แต่หากผ่านไป 8 เดือนแล้ว ไม่มีหลอดอาหารตีบ ก็ไม่น่าเกิดขึ้นแล้ว

                   ทั้งนี้ หากกินน้ำยาล้างห้องน้ำแบบผสมกับน้ำ ความเป็นกรดก็จะถูกเจือจางลง และหากกินเข้าไปไม่มาก โอกาสเกิดความเสียหายต่อเนื้อเยื่อก็จะน้อยลง ดังนั้น หากไม่ได้เกิดอาการผิดปกติอะไรขึ้นในช่วง 5 วันแรก แสดงว่าเนื้อเยื่อที่ถูกทำลายถือว่ามีน้อย และหากผ่านมา 1 เดือนแล้ว หากมีเนื้อเยื่อที่ถูกทำลาย ก็จะอยู่ในช่วงระยะการหายของแผลแล้ว ซึ่งเป็นช่วงที่มีโอกาสเกิดหลอดอาหารตีบได้ ซึ่งอาการคือการกลืนลำบาก กลืนติด กลืนแล้วเจ็บหน้าอก เป็นต้น แต่หากไม่มีอาการดังกล่าว ก็แสดงว่าไม่น่ามีการตีบของหลอดอาหารเกิดขึ้น อย่าวไรก็ตาม ควรสังเกตอาการต่อไปก่อนค่ะ หากมีอาการดังกล่าว ก็ควรไปพบแพทย์เพื่อรักษาค่ะ 

                     สำหรับอาการปวดท้องแสบๆ น่าจะเป็นอาการของกระเพาะอาหารอักเสบ ซึ่งก็อาจเป็นผลต่อเนื่องมาจากการกินน้ำยาล้างห้องน้ำได้ค่ะ 

                     ดังนั้น แนะนำควรดูแลตนเองแบบโรคกระเพาะอาหารอักเสบ ได้แก่ การเลือกทานอาหารที่ย่อยง่าย ไม่ทานอาหารที่มีไขมันสูง เช่น อาหารทอดต่างๆ อาหารผัด ไม่ทานอาหารรสจัด ไม่ทานเผ็ด ควรเคี้ยวช้าๆ ให้ละเอียด ไม่ทานและกลืนเร็ว ไม่ทานอาหารครั้งละปริมาณมากเกินไป ไม่ดื่มน้ำอัดลม อัดแก๊สต่างๆ รวมถึงชา กาแฟ โกโก้ แอลกอฮอล์ และไม่ควรทานอาหารแล้วนอนทันที ต้องเว้นระยะไปอย่างน้อย 2 ชั่วโมง ห้ามทานยาแก้ปวดในกลุ่ม NSAIDs เช่น แก้ปวดเมื่อย ปวดข้อ ปวดประจำเดือน เป็นต้น แต่หากอาการยังไม่ดีขึ้น ก็ควรไปพบแพทย์เพื่อรักษาค่ะ