ถามแพทย์

  • กินยาคุมแบบ 28 เม็ด พอถึงเม็ดที่ 15 มีเลือดออกมาตลอด จนยาหมดไป 2 วัน เกิดจากอะไร

  •  Kmedpj
    สมาชิก
    เรื่องมีอยู่ว่า หนูกินยาคุมรายเดือนยี่ห้อแอนนี่ลิน28เม็ด มาเป็นปีแล้วค่ะ ไม่เคยมีอาการแบบนี้มาก่อน จู่ๆ กินไปได้เม็ดที่15ของแผง ก็มีเลือดออกทางช่องคลอด วันแรกก็น้อยๆ วันต่อมาก็เยอะขึ้นเรื่อยๆ และยังไม่หายสักทีค่ะ ยังมีเลือดออกอยู่เรื่อยๆ รวมเป็น9วันแล้วค่ะ ระหว่างที่มีเลือดออกก็ยังกินยาคุมต่อจนหมดไปได้2วันแล้วค่ะ อยากทราบว่ามันเกิดจากอะไรคะหมอ เป็นอันตรายมั้ยคะ อาการอื่นๆไม่มีอะไรเลยค่ะ มีแต่เลือดออกไม่ปวดท้องหรืออะไรเลยค่ะ #ตั้งแต่เลือดออกงดการมีเพศสัมพันธ์ตั้งแต่วันนั้นเลยค่ะ #ช่วงที่มีเลือดออกได้ไปฉีดวัคซีนป้องกันโควิดเข็มแรกมาค่ะ (แอสตร้า)17/11/64

    สวัสดีค่ะ คุณ Kmedpj,

                           ยาคุมกำเนิดยี่ห้อแอนนิลินน์ (Annylyn) นั้น มีปริมาณฮอร์โมนเอสโตรเจนเพียง 0.02 มิลลิกรัม ดังนั้น ถือเป็นยาคุมชนิดที่มีฮอร์โมนต่ำมาก ซึ่งผลข้างเคียงจากยาคุมชนิดที่มีฮอร์โมนต่ำมาก คือมักทำให้มีเลือดออกกะปริดกะปรอย ดังนั้น การที่ทานยาคุมไป 15 เม็ด แล้วเกิดมีเลือดออกจากช่องคลอด ก็น่าจะเกิดจากผลข้างเคียงของยาค่ะ ซึ่งไม่ได้อันตรายอะไร ส่วนเมื่อทานยาคุมจนถึงช่วงที่เป็นเม็ดแป้ง เลือดที่ออก ถือว่าเป็นประจำเดือนค่ะ

                           ทั้งนี้ หากยังต้องการคุมกำเนิดอยู่ เมื่อทานยาคุมครบ 28 เม็ดแล้ว ก็ให้เริ่มทานยาคุมแผงใหม่ต่อทันที การออกฤทธิ์ในการป้องกันการตั้งครรภ์จึงจะเป็นไปอย่างต่อเนื่อง แต่หาทานหมดแผงไป 2 วันแล้ว ยังไม่ได้เริ่มทานแผงใหม่ ฤทธิ์ของยาคุมก็จะถือว่าหมดลงไปแล้ว หากจะเริ่มทานยาแผงใหม่ ก็ควรทานต่อเนื่องให้ครบ 7 วัน ก่อนที่จะมีเพศสัมพันธ์ เพื่อรอให้ยาคุมได้เริ่มออกฤทธิ์ใหม่ก่อนค่ะ

                            ทั้งนี้ หากไม่อยากให้เกิดเลือดออกระหว่างทานยาคุมอีก อาจเปลี่ยนยี่ห้อยาคุมกำเนิด เป็นชนิดที่มีฮอร์โมนสูงขึ้นค่ะ