ถามแพทย์

  • กินยาคุมแผงที่ 2 ไปได้ 10 วัน แล้วมีเลือดออกเหมือนประจำเดือน ผิดปกติไหม

  •  J-mie
    สมาชิก
    สอบถามค่ะ กินยาคุมแบบ 21 เม็ดแผงที่ 2 กินไปได้ 10 วัน มีเลือดออกเหมือนเป็นประจำเดือน แบบนี้ผิดปกติไหมค่ะ แล้วควรกินยาคุมแผงเดิมต่อ หรือควรหยุดเว้นกี่วัน แล้วค่อยกินยาคุมต่อค่ะ

    สวัสดีค่ะ คุณ J-mie,

                        หากได้ทานยาคุมกำเนิดแผงแรกครบ 21 เม็ด และได้เว้นระยะครบ 7 วัน และมีประจำเดือนมาในช่วงที่เว้นระยะครบ 7 วันแล้ว ก็ถือว่าปกติดี และแสดงว่าไม่ได้มีการตั้งครรภ์เกิดขึ้น ดังนั้น เมื่อเริ่มทานยาคุมแผงใหม่ไปได้ 10 วัน แล้วมีเลือดออก ก็อาจเกิดจากผลของยาคุมกำเนิดที่ทำให้มีเลือดออกกะปริดกะปรอยได้ หากเลือดที่ออกมีปริมาณไม่มาก ไม่มีปวดท้องน้อยรุนแรง ก็อาจสังเกตอาการไปก่อนได้ แต่หากเลือดที่ออก มีปริมาณมาก หรือออกต่อเนื่องกันนานหลายวัน หรือมีปวดท้องน้อยมาก ก็ควรหยุดทานยาคุมไปก่อน และไปพบแพทย์เพื่อหาสาเหตุค่ะ เช่น อาจเกิดจากมีมดลูกอักเสบ มีเนื้องอกในมดลูก มะเร็งเยื่อบุโพรงมดลูก มะเร็งปากมดลูก เป็นต้น

                          แต่หากได้ทานยาคุมกำเนิดแผงแรกครบ 21 เม็ด และได้เว้นระยะครบ 7 วัน แต่ไม่มีประจำเดือนมาในช่วงที่เว้นระยะครบ 7 วันแล้ว ก็ถือว่าผิดปกติ และต่อมาเมื่อทานยาคุมแผงใหม่ไป 10 วัน แล้วมีเลือดออก ก็ควรตรวจหาการตั้งครรภ์ดูด้วยค่ะ เพราะอาจเป็นเลือดที่เกิดจากการแท้งก็ได้

                          หรือหากได้ทานยาคุมกำเนิดแผงแรกครบ 21 เม็ด แต่ไม่ได้เว้นระยะ 7 วัน แล้วทานยาแผงใหม่ต่อเลย เลือดที่ออกหลังจากทานยาคุมแผงใหม่ไป 10 วัน ก็เกิดจากผลของการทานยาคุมกำเนิดที่ผิดได้ ในกรณีนี้ สามารถทานยาคุมต่อไปได้ แต่เมื่อทานยาครบ 21 เม็ด ก็ต้องอย่าลืมเว้นระยะ 7 วันด้วยค่ะ