ถามแพทย์

  • กินยาต้านไวรัสทำให้ค่าตับเพิ่มขึ้นไหม

  •  Tsak
    สมาชิก
    เข้ารับการรักษาช่วงแรกก่อนที่จะตรวจพบเชื้อ HIV ค่าตับสูงนิดหน่อยอยู่ที่ 46 ก่อนที่จะเริ่มยาต้าน หมอให้รักษาปอดก่อนโดยให้ทานยาฆ่าเชื้อ ทานยาไปสักพักมีอาการแพ้ยาต้องแอดมิทโรงพยาบาลหนึ่งอาทิตย เม็ดเลือดขาวต่ำและเลือดจาง จากการตรวจค่าตับเพิ่มจนน่าตกใจอยู่ที่ 500 กว่า และลงมาเรื่อยๆตามปริมาณยาที่กิน ตอนนี้เริ่มยาต้านได้ 15 วันค่าตับอยู่ที่ 138 จึงสงสัยว่าเป็นเพราะยาต้านรึเปล่ารึเกิดจากสาเหตุไหน ถ้ากินยาต้านไปเรื่อยๆค่าตับจะระดับนี้ไปตลอดรึเปล่า
    Tsak  พญ.นรมน
    สมาชิก

    สวัสดีค่ะคุณ Sittisak Title

    โรค hiv คือการติดเชื้อไวรัสชนิดหนึ่งที่ทำให้ระดับภูมิคุ้มกันในร่างกายต่ำลง จนติดเชื้อฉวยโอกาสที่รุนแรงเช่นเชื้อราในปอด ในสมองได้ ดังนั้นหากตรวจเลือดเจอว่ามีโรค hiv แล้ว และตรวจพบว่าระดับภูมิคุ้มกันในร่างกายลดต่ำจนถึงระดับหนึ่ง จะเป็นข้อบ่งชี้ในการรับประทานยาต้านไวรัส

    ยาต้านไวรัสโดยทั่วไป อาจมีผลข้างเคียงระยะยาวเช่นภาวะซีด ตับหรือตับอ่อนอักเสบเฉียบพลัน ค่าการทำงานของตับขึ้นผิดปกติ ชาปลายมือปลายเท้า นิ่วในไต โดยแพทย์จะคอยตรวจติดตามอยู่เสมอ

    หากค่าตับขึ้นมากผิดปกติอยู่ที่ประมาณ 500 กว่า คือประมาณ 10 เท่าจากปกตินั้น ควรหาสาเหตุอื่นๆร่วมด้วยก่อน เช่นการได้รับยาบางชนิดเกินขนาด การติดเชื้อไวรัสตับอักเสบ หรือการดื่มแอลกอฮอล์ หรือการมีเนื้องอกที่ตับ แพทย์จะตรวจหาสาเหตุโดยอาจเจาะเลือดเพิ่มเติมหรืออัลตราซาวน์ตับ และรักษาตามสาเหตุนั้นๆเพื่อเอาค่าตับลงมาให้ใกล้เคียงปกติที่สุด ไม่ควรจะอยู่ที่ค่านี้ตลอดไป หากเกิดจากยาต้านจริง อาจมีการเปลี่ยนชนิดของยาต้านค่ะ