ขออนุญาตปรึกษาค่ะ

 สวัสดีค่ะ คุณ Narin Chaaom,

              สำหรับอาการปวดประจำเดือน หากเคยมีอาการปวดประจำเดือนทุกเดือน ต่อมาอาการปวดน้อยลง ปวดแค่เป็นบางเดือน ปวดไม่รุนแรง น่าจะเกิดจากอาการปวดประจำเดือนชนิดปฐมภูมิ คือเป็นการปวดประจำเดือนที่ไม่ได้เกิดจากความผิดปกติของมดลูกหรือรังไข่ แต่มีสาเหตุมาจากการเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมนในระหว่างมีประจำเดือน 

           แต่หากอาการปวดประจำเดือนรุนแรงขึ้น โดยที่ไม่เคยปวดประจำเดือนมาก่อน มักมีมีสาเหตุมาจากความผิดปกติของมดลูกและรังไข่ เช่น เนื้องอกมดลูก เยื่อบุโพรงมดลูกเจริญขึ้นผิดที่ ซีสต์ที่รังไข่ โดยเฉพาะช็อกโกแลตซีสต์ พังผืดในช่องท้อง เป็นต้น

           สำหรับอาการถ่ายอุจจาระบ่อยนั้น หากลักษณะอุจจาระเป็นก้อนปกติ ไม่เหลวเป็นน้ำ ไม่เป็นมูก ไม่มีเลือดปน ถือเป็นลักษณะของอาการปกติที่พบได้ในบางคนที่ระบบประสาทของทางเดินอาหารไวต่อการกระตุ้นจากมากกว่าคนทั่วไป ซึ่งมักเกิดหลังรับประทานอาหาร คือเมื่ออาหารลงกระเพาะแล้ว กระเพาะเกิดการขยายตัวและส่งกระแสประสาทไปยังลำไส้ให้บีบตัวเพื่อขับถ่ายออก ซึ่งโดยปกติจะต้องไม่มีอาการปวดท้อง คลื่นไส้ หรือท้องผูกสลับท้องเสียร่วมด้วย ซึ่งในกรณีของคุณ Narin Chaaom การเปลี่ยนแปลงลักษณะของการถ่ายอุจจาระหลังคลอด อาจเป็นไปได้ โดยเฉพาะหากคลอดผ่านทางช่องคลอด เนื่องจากหูรูดของรูทวารหนัก อาจมีการขยายตัว ทำให้การถ่ายง่ายขึ้นหรือบ่อยขึ้นกว่าก่อนคลอดลูก

           ส่วนโรคมะเร็งลำไส้ใหญ่ ลักษณะอาการที่สำคัญนอกจากความรู้สึกถ่ายไม่สุด คือ การถ่ายอุจจาระเป็นเลือด หรือเป็นมูกเลือด น้ำหนักลดลงอย่างมีนัยสำคัญ (5% ใน 3 เดือน แต่ไม่รวมช่วงหลังคลอด) เบื่ออาหาร ปวดท้อง ก้อนอุจจาระเป็นลำเล็กๆ มีท้องเสียสลับกับท้องผูกเรื้อรัง

            นอกจากนี้ มะเร็งลำไส้ใหญ่ มักพบในคนอายุมากกว่า 50 ปีขึ้นไป หรือหากพบในอายุน้อย มักมีประวัติคนในครอบครัวเป็นมะเร็งลำไส้ใหญ่ หรือมะเร็งเต้านม มะเร็งรังไข่ มะเร็งเยื่อบุโพรงมดลูก หรือมีปัจจัยเสี่ยงต่างๆ เช่น เป็นมะเร้งชนิดอื่นๆ อยู่ สูบบุหรี่ ดื่มแอลกอฮอล์มาก มีติ่งเนื้อในลำไส้ เป็นต้น ดังนั้นหากไม่มีประวัติโรคมะเร็งลำไส้ใหญ่ในครอบครัว และไม่มีอาการต่างๆ ที่กล่าวไป โอกาสที่คุณ Narin Chaaom จะเป็นก็น้อยค่ะ