ถามแพทย์

  • มีอาการหน้ามืด เวียนหัว บ้านหมุน คลื่นไส้ กินยาแล้วยังไม่ดีขึ้น เกิดจากอะไร

  •  Thanaporn Miew
    สมาชิก
    เวลาล้มตัวนอนคะจะมีอาการเวียนหัว บ้านหมุน บางครั้งนอนหมอนสูงไปหรือต่ำไปก้อจะเวียนหัวคะ พอลุกขึ้นอาการก้อดีขึ้นคะ เป็นมา1เดือนแล้ว อาการคือเวียนหัว หน้ามืด คลื่นใส้ บ้านหมุน แขนซ้ายมีแรงน้อยกว่าด้านขวาแต่ยังสามารถบีบหรือกำแรงๆได้ถือของได้นาน ไปหาหมอมาเมื้อ2วันก่อนหมอบอกน่าจะเป็นโรคน้ำในหูไม่เท่ากัน เจาะเลือดแร้วผลเลือดออกมาดีทุกอย่าง หมอไห้ยาbetahistine มาทาน ควบคู่กับยาแก้เวียนหัวคลื่นใส้และวิตามินบำรุง ทานไปแร้วรู้สึก ปวดหน่วงๆที่หลังหัวคลื่นใส้ แต่ไม่มีอาการหน้ามืด แบบนี้เป็นเพราะอะไรค่ะ ทานยามา2วัน เป็นทั้ง2วัน พอเมื่อวานคะทานข้างเสร็จยังไม่ได้ทานยา เริ่มปวดหลังหัวหน่วง คลื่นใส้ ทานยาbetahistineกับยาแก้เวียนหัวคลื่นใส้ อาการก้อหายคะ แบบนี้เป็นเพราะอะไรคะ
    Thanaporn Miew  พญ.นรมน
    แพทย์

    สวัสดีค่ะคุณ Thanaporn Miew

    การวินิจฉัยที่เป็นไปได้

    -โรคน้ำในหูไม่เท่ากัน

    -โรคสมองน้อยขาดเลือด คือสมองน้อยเป็นส่วนที่ควบคุมการทรงตัวในร่างกาย ถ้าขาดเลือดไปจะทำให้มีอาการเวียนหัว เดินเซมาก

    -ภาวะอื่นๆเช่น ความดันต่ำ โลหิตจางก็ทำให้หน้ามืดได้เช่นกัน

    โรคน้ำในหูไม่เท่ากันเป็นโรคที่เกิดจากความผิดปกติของน้ำภายในหูชั้นใน ทำให้มีอาการเวียนศีรษะ คลื่นไส้ บ้านหมุน หูอื้อ การได้ยินผิดปกติ เป็นโรคที่รักษาด้วยการรับประทานยาลดอาการเวียนศีรษะเช่น betahistine ร่วมกับยาลดอาการคลื่นไส้ และทำกายภาพบำบัดและฝึกการทรงตัวเพื่อช่วยลดอาการ

    การดูแลตัวเองเบื้องต้น หลีกเลี่ยงการทำท่าทางที่ทำให้เวียนศีรษะมากขึ้น เคลื่อนไหวให้ช้าลง รับประทานยาตามที่แพทย์สั่ง หลีกเลี่ยงการดื่มชา กาแฟ งดการสูบบุหรี่ นอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ ควรรับประทานยาต่อไปก่อนเพราะถ้ารับประทานมาแค่ 2 วัน ยาจะยังออกฤทธิ์ไม่เต็มที่ ร่วมกับปรับพฤติกรรมดังแนะนำไปข้างต้นร่วมด้วย

    ควรกลับไปพบแพทย์เมื่อมีความผิดปกติของระบบประสาทเช่นอ่อนแรงแขนขาซีกใดซึกหนึ่ง พูดไม่ชัด ปากเบี้ยว เดินทรงตัวไม่ได้เลยจะล้มตลอดเวลา อันนี้อาจเป็นอาการของโรคสมองขาดเลือดค่ะ