ถามแพทย์

  • คันที่ขาหนีบมาก มีตุ่มน้ำใสๆ ขึ้น เวลาเดินโดนเสียดสีจะแสบมาก จนเกิดแผล เป็นอะไร รักษาอย่างไร

  •  Kassandra
    สมาชิก
    คือช่วงเดือนนี้ไม่เป็นอะไรคะคันที่ขาหนีบมากไป และประจำเดือนพึ่งหมดไป อาจจะมีส่วนแพ้ผ้าอนามัยด้วยค่ะ จากที่เป็นอยู่แล้วก็หนักขึ้น เวลาเดินออกไปข้างนอกและมันถูกเสียดสีกัน ทำให้เกิดมีตุ่มใสๆและคัน มันเลี่ยงไม่ได้ในการใช้ชีวิตประจำวัน เพราะต้องเดิน แล้วทำให้แสบมาก จนเป็นนูนๆและเกิดแผล ตอนนี้ลามไปถึงก้นแล้วค่ะ ไม่ทราบว่าเกิดจากอะไรคะ และมีวิธีรักษาอย่างไร

    สวัสดีค่ะ คุณ Kassandra,

                        อาการคันที่ขาหนีบ มีตุ่มใสๆ และมีแผล อาจเกิดจาก

                       1. การติดเชื้อรา นอกจากมีอาการคันเป็นหลักแล้ว อาจมีอาการเจ็บแสบได้ผิวหนังบริเวณอาจเกิดเป็นผื่นชนิดนูนหรือราบสีแดง หรือมีลักษณะแบบผิวหนังลอก ผิวหนังอาจบวม

                       2. การแพ้สัมผัส เช่น อาจแพ้ผงซักฟอก หรือน้ำยาที่ใช้ซักกางเกงในและกางเกง แพ้น้ำยาปรับผ้านุ่ม  แพ้สบู่ แป้งหรือโลชั่นที่นำมาทา รวมถึงอาจแพ้เนื้อผ้าของกางเกงในหรือกางเกง เป็นต้น 

                     3.โรคหิด โดยจะมีตุ่มนูนแดงเล็กๆ หรืออาจเป็นตุ่มน้ำใสๆ ก็ได้ ซึ่งเป็นจุดที่หิดขุดผิวหนังเข้าไปอยู่ และอาจโพรงของหิด คือเห็นเป็นสันนูนบนผิวหนัง ที่มีลักษณะหยิกหยักคดเคี้ยวไปมา ความยาวประมาณ 2-3 มม. นอกจากนี้จะมีอาการคันมาก โดยเฉพาะเวลากลางคืน

                        4. งูสวัดที่ผิวหนัง โดยจะมีตุ่มน้ำใสเกิดขึ้น ต่อมาจะแตกออกเป็นแผล และกลายเป็นสะเก็ดแห้งไป แต่อาการคือจะปวดแสบปวดร้อนเป็นหลักมากกว่าอาการคัน และหากเป็นมาหลายสัปดาห์แล้ว ก็ไม่น่าใช่

                        ในเบื้องต้น ควรงดใช้สิ่งที่อาจแพ้ต่างๆ เช่น สบู่ แป้ง โลชั่น รวมถึงน้ำยาซักผ้าต่างๆ ใส่กางเกงชั้นในและกางแกงที่ไม่รัดแน่นเกินไป ใช้เนื้อผ้าที่อ่อนนุ่มละเอียด ไม่หยาบกระด้าง อาจเลือกใส่กระโปรงไปก่อน เพื่อไม่ให้เกิดการเสียดสีขณะเดิน และพยายามรักษาความสะอาดอน่าให้บริเวณขาหนีบเปียกชิ้น หากมีอาการคันมาก อาจทานยาแก้แพ้แก้คัน เช่น ไฮดรอกไซซีน (hydroxyzine) chlorpheniramine (CPM) เป็นต้น

                      แต่หากอาการไม่ดีขึ้น ก็ควรไปพบแพทย์เพื่อตรวจว่าเป็นเชื้อราหรือโรคอื่นๆ เพื่อจะได้รับยารักษาที่ถูกต้องค่ะ