ถามแพทย์

  • คันที่ขา มีรอยตุ่มแดง ยิ่งเกายิ่งคัน แขนไม่เป็น เกิดจากอะไร

  • สวัสดีค่ะ เมื่อวานรู้สึกคันที่ขาช่วงบ่าย แล้วเกาที่ละนิดมาเรื่อยๆจนถึงตอนดึกอาบน้ำแล้วมาดู เห็นวาขามีรอยตุ่มแดง ยิ่งเกายิ่งคันเป็นหนักคือขาข้างขวาค่ะ ข้างซ้ายคันบางๆ เป็นแค่ขา แขนไม่เป็นค่ะ เกิดจากอะไรหรอคะ อยากแนบรูปมากเลย😭😭

    สวัสดีค่ะ คุณ ปาริชาติ ชาติศักดิ์ยุทธ,

                         อาการคันที่ขา มีตุ่มแดง อาจเกิดจาก

                      - การแพ้สัมผัสหรือระคายเคืองจากสารเคมีต่างๆ 

                       - ผื่นลมพิษ จากการแพ้ต่างๆ เช่น อาหาร ไรฝุ่น ขนสัตว์ เกสรดอกไม้ เป็นต้น แต่น่าจะเกิดที่บริเวณอื่นๆ ด้วย

                      - การติดเชื้อราที่ผิวหนัง

                      - ผื่นแพ้ยา โดยจะต้องมีประวัติการใช้ยานำมาก่อน

                      - เป็นไข้ออกผื่นจากเชื้อไวรัสชนิดต่างๆ เช่น อีสุกอีใส หัด เป็นต้น โดยมักจะมีอาการไข้และไม่สบายตัวต่างๆ นำมาก่อน และผื่นจะเกิดที่บริเวณอื่นๆ ด้วย

                       - โรคผิวหนังอักเสบชนิดต่างๆ 

                        - เป็นรูขุมขนอักเสบ ซึ่งเกิดจากการติดเชื้อแบคทีเรียหรือเชื้อราที่รูขุมขน ร่วมกับการอุดตันของรูขุมขน อาการของรูขุมขนอักเสบ คือจะเห็นเป็นตุ่มแดง มักมีอาการคันเล็กน้อย แต่ไม่ถึงกับคันมาก โดยปัจจัยเสี่ยงคือการโกนหรือถอนขน ใส่กางเกงผ้าหยาบและรัดแน่นจนไปเสียดสีกับผิวหนัง เป็นต้น

                       ในเบื้องต้น หากมีอาการคันมาก ควรทานกลุ่มยาแก้แพ้ แก้คัน เช่น ไฮดรอกไซซีน (hydroxyzine), chlorpheniramine (CPM) เป็นต้น พยายามหลีกเลี่ยงการเกา หลีกเลี่ยงการใช้สิ่งต่างๆ ที่อาจเป็นสาเหตุทำให้เกิดการแพ้ไปก่อน เช่น ทาโลชั่นหรือครีมต่างๆ ไม่ใช้สบู่ที่รุนแรง ไม่ใช้หินหรือใยขัดตัว ไม่โกนหรือถอนขน เป็นต้น แต่หากอาการไม่ดีขึ้น หรือก็ควรไปพบแพทย์เพื่อรักษาค่ะ