-
แม่เป็นงูสวัด ทายาและทานยา อยากทราบว่าสามารถฉีดยารักษาให้หายได้ไวกว่านี้หรือไม่
-
Feb 15, 2018 at 12:30 PM
ใช้ยา vilerm ทาอยู่แต่ยังลามขึ้นเรื่อยๆ ทานยา Acyclovir 800mg ครั้งละครึ่งเม็ด วันละ 5 ครั้ง อยากทราบว่าโรคงูสวัดสามารถฉีดยารักษาได้ไวกว่านี้หรือไม่ แล้วราคาสูงมั้ยจ้า ขอบคุณจ้าFeb 15, 2018 at 12:58 PM
โดยทั่วไป โรคงูสวัด ไม่ได้ถือเป็นโรคที่รุนแรง สามารถหายได้เองภายใน 2-3 สัปดาห์แม้ไม่ได้ทานยา สำหรับการทานยานั้น ควรเริ่มทานยาภายใน 3 วันนับตั้งแต่เกิดผื่นขึ้นมา ยาจึงจะช่วยให้อาการหายได้เร็วขึ้น หากเริ่มทานยาช้า ยาอาจไม่ช่วยลดระยะเวลาในการดำเนินโรคมากนัก
หากคุณแม่ไม่ได้มีโรคประจำตัว เช่น โรคไตเรื้อรัง เอดส์ หรือมีภาวะภูมิคุ้มกันบกพร่องจากโรคอื่นๆ รวมทั้งการได้รับยากดภูมิคุ้มกัน เป็นต้น และอาการของงูสวัดที่เป็นอยู่ไม่รุนแรง และไม่มีภาวะแทรกซ้อน สามารถทานยาต้านไวรัสงูสวัดได้ โดยหากเป็นยา acyclovir ต้องทานขนาด 800 มิลลิกรัม วันละ 5 ครั้ง นานอย่างน้อย 7-10 วัน ดังนั้นการให้คุณแม่ทานยาเพียงแต่ครึ่งเม็ด ซึ่งเท่ากับ 400 มิลลิกรัม จึงอาจได้ขนาดยาไม่เพียงพอ และการเริ่มทานยาหลังเกิดผื่นมา 6 วันแล้ว อาจไม่ได้ทำให้ผื่นหายได้เร็วขึ้นดังกล่าวไป สำหรับยาที่เป็นชนิดทา จะใช้ผลเฉพาะในโรคเริม แต่ไม่ได้ผลสำหรับโรคงูสวัด
หากมีอาการที่รุนแรง คือมีผื่นขึ้นนอกแนวของเส้นประสาทมากกว่า 1 แนวของเส้นประสาท หรือผื่นกระจายข้ามเส้นกลางของลำตัว มีผื่นขึ้นที่หน้าและผื่นกระจายไปที่ตา ซึ่งอาจทำให้เกิดกระจกตาอักเสบ แผลกระจกตา ม่านตาอักเสบ ต้อหิน ประสาทตาอักเสบ หรือเกิดผื่นบริเวณใกล้หู และเกิดอัมพาตใบหน้าครึ่งซีก มีอาการบ้านหมุน คลื่นไส้ หูอื้อ หูตึง หรือเกิดเชื้องูสวัดกระจายเข้าสู่สมองและอวัยวะภายในอื่น ๆ เช่น ตับ ปอด เป็นต้น หรือมีโรคประจำตัวบางอย่างที่ยกตัวอย่างไป ในกรณีเหล่านี้จึงจำเป็นต้องได้รับยาต้านไวรัสทางหลอดเลือดดำค่ะ
นอกจากนี้ ควรระมัดระวังไม่ให้ผื่นงูสวัดติดเชื้อแบคทีเรียแทรกซ้อน ได้แก่ ห้ามการแคะ แกะ เกา หากมีอาการคันมาก ควรทานยาแก้แพ้ อาบน้ำฟอกสบู่ให้สะอาด หลีกเลี่ยงการขัดถูผิวหนัง ในระยะที่ตุ่มน้ำแตกมีน้ำเหลืองไหล ต้องเช็ดทำความสะอาด้วยน้ำเกลือและปิดด้วยผ้าก๊อซหรือผ้าสะอาด เป็นต้น
Feb 15, 2018 at 02:35 PM
อยากให้คุณหมอแนะนำยาทาหน่อยจ้า ปล.คุณแม่น้ำหนักแค่ 34 ไม่แน่ใจว่ายาต้องทานตามขนาดน้ำหนักตัวรึเปล่าจ้า 🙏🏻 ขอบพระคุณมากจ้าFeb 16, 2018 at 10:59 AM
ถึงแม้คุณแม่จะน้ำหนักตัวน้อย แต่ปริมาณยา acyclovir ที่ควรได้จะเท่ากับคนที่มีน้ำหนักตัวปกติค่ะ ยกเว้นยาบางชนิด หรือการมีโรคประจำตัวบางอย่าง โดยเฉพาะโรคตับ หรือไตเรื้อรัง ที่ต้องลดปริมาณยาลง หรือหากเป็นยาชนิดฉีดเข้าหลอดเลือดบางชนิด รวมถึง acyclovir ก็จะคำนวณตามน้ำหนัก แต่ก็มักจะใช้น้ำหนักตัวที่ควรจะเป็นในช่วงอายุนั้นๆ (ideal body weight) มากกว่าน้ำหนักจริงค่ะ
-
ถามแพทย์
-
แม่เป็นงูสวัด ทายาและทานยา อยากทราบว่าสามารถฉีดยารักษาให้หายได้ไวกว่านี้หรือไม่