การกินยาคุมกำเนิดกับยาฉีดคุมกำเนิดแบบไหนดีกว่าและปลอดภัยกว่า

สวัสดีค่ะ คุณ Lisa Lalisa,

                   ยาคุมกำเนิดชนิดฮอร์โมนรวม หากทานได้อย่างถูกต้อง จะช่วยป้องกันการตั้งครรภ์ได้มากกว่า 99% หรือมีโอกาสตั้งครรภ์ประมาณ 0.3% สำหรับผลข้างเคียงต่างๆ ที่อาจเกิดได้ เช่น ปวดหัว เวียนหัว คลื่นไส้ อาเจียน เจ็บหน้าอก อารมณ์แปรปรวน เลือดออกกะปริดกะปรอย เป็นต้น

                    ทั้งนี้ การทานยาคุมกำเนิดต้องสามารถทานได้ทุกวัน ในเวลาเดียวกันของแต่ละวัน ดังนั้น ต้องเป็นคนมีวินัยในการทานยา ไม่ขี้ลืม ข้อดีของการทานยาคุมคือ หากต้องการหยุดทาน และต้องการตั้งครรภ์ ก้สามารถหยุดได้ทันที และสามรถตั้งครรภ์ได้ภายในเวลาไม่กี่สัปดาห์

                    สำหรับยาฉีดคุมกำเนิด มีทั้งชนิดที่เป็นฮอร์โมนรวม (ฉีดทุก 1 เดือน) และฮอร์โมนเดี่ยว (ฉีดทุก 3 เดือน) ประสิทธิภาพในการป้องกันการตั้งครรภ์นั้นไม่แตกต่างกัน โดยจะช่วยป้องกันการตั้งครรภ์ได้มากกว่า 99% หรือมีโอกาสตั้งครรภ์ประมาณ 0.2% แต่ทั้งนี้ ต้องไปฉีดยาตามกำหนดนัด

                    โดยหากเป็นยาฉีดคุมกำเนิดชนิดที่ฉีดทุก 1 เดือน ข้อดีคือ จะทำให้มีประจำเดือนมาทุกเดือนเป็นปกติ (สำหรับผู้ที่ต้องการให้มีประจำเดือนมาทุกเดือน) และเมื่อหยุดฉีด หากต้องการตั้งครรภ์ ก็สามารถตั้งครรภ์ได้ภายในเวลาไม่กี่สัปดาห์ สำหรับผลข้างเคียงนั้นจะคล้ายกับยาเม็ดคุมกำเนิด

                    ส่วนยาคุมกำเนิดชนิดที่ฉีดทุก 3 เดือน เป็นยาฉีดชนิดฮอร์โมนเดี่ยว ประกอบด้วยฮอร์โมนโปรเจสเตอโรนเพียงอย่างเดียว ซึ่งมักทำให้เกิดผลข้างเคียงคือ มีเลือดออกกะปริดกะปรอย และเมื่อฉีดต่อเนื่องไปนานๆ มักทำให้มีประจำเดือนขาดหายไปได้ ซึ่งเหมาะสำหรับคนที่ไม่ชอบการมีประจำเดือน ข้อเสียคือ หากอยากจะตั้งครรภ์ เมื่อหยุดฉีดแล้ว ต้องรอนานหลายเดือน หรือบางรายอาจนานเป็นปีได้

                     สำหรับข้อห้ามในการใช้ยาฮอร์โมนในการคุมกำเนิด ไม่ว่าจะเป็นยาเม็ดคุมกำเนิดหรือยาฉีดคุมกำเนิด เช่น มีประจำเดือนผิดปกติหรือเลือดออกผิดปกติอยู่ก่อน มีโรคการแข็งตัวของเลือดผิดปกติ โรคตับ เป็นหรือเคยเป็นมะเร็งเต้านม มะเร็งรังไข่ มีความดันโลหิตสูงที่ควบคุมไม่ได้ มีอาการปวดศีรษะไมเกรนรุนแรง มีภาวะกระดูกพรุน โรคซึมเศร้ารุนแรง เป็นต้น