ผมเป็นงูสวัดได้ 2 สัปดาห์แล้ว ต่อมาภรรยาที่กำลังท้อง36สัปดาห์ มีตุ่มใสขึ้นบริเวณหน้าท้องและเอว สงสัยว่าจะเป็นงูสวัด จะมีปัญหาต่อบุตรในครรภ์หรือไม่

สวัสดีค่ะ คุณ Yuttana Ngokngam,

                งูสวัด (Shingles) คือโรคติดเชื้อไวรัส มีสาเหตุเกิดจากเชื้อไวรัสชนิดเดียวกับเชื้อที่เป็นสาเหตุของโรคอีสุกอีใส หากเชื้อชนิดนี้เข้าสู่ร่างกายผู้ที่ไม่เคยได้รับเชื้อก็จะทำให้เป็นโรคอีสุกอีใส และเมื่อหายเป็นปกติแล้ว เชื้อดังกล่าวจะเข้าไปอยู่บริเวณปมประสาทของร่างกาย เมื่อร่างกายอ่อนแอ เชื้อก็จะออกจากปมประสาทและทำให้เกิดโรคที่ผิวหนังตามเส้นประสาทของผมประสาทนั้นๆ  ซึ่งเรียกว่า งูสวัด  

                หากผู้ที่ไม่เคยเป็นอีสุกอีใสมาก่อน หรือไม่เคยฉีดวัคซีนป้องกันโรคอีสุกอีใสมาก่อน มาสัมผัสกับผื่นหรือตุ่มน้ำใสของงูสวัด ก็จะทำให้กลายเป็นโรคอีสุกอีใส แต่หากเคยเป็นมาแล้ว หรือฉีดวัคซีนมาแล้ว และไปสัมผัสกับผื่นของงูสวัดของผู้ที่เป็นโรค ก็จะไม่ทำให้เกิดอาการใดๆ และไม่ได้ทำให้เป็นงูสวัดได้ค่ะ เนื่องจากโรคงูสวัดเป็นการกำเริบของเชื้อที่อยู่ในร่างกายของคนๆ นั้นเองอย่างที่ได้กล่าวไป โดยจะเกิดเมื่อร่างกายเราอ่อนแอ เช่น เครียด พักผ่อนไม่เพียงพอ เจ็บป่วยติดเชื้อไวรัส ตากแดดนาน เป็นโรคเรื้อรังต่างๆ เช่น ติดเชื้อ HIV มะเร็ง ได้รับยากดภูมิคุ้มกัน เป็นต้น รวมทั้งพบได้บ่อยในผู้สูงอายุ 

                 ดังนั้นหากภรรยาของคุณ Yuttana Ngokngam ไม่เคยเป็นอีสุกอีใสหรือไม่เคยได้รับวัคซีนป้องกันโรคอีสุกอีใสมาก่อน จึงมีโอกาสที่จะติดเชื้อและเป็นโรคอีสุกอีใสค่ะ หากเป็นโรคอีสุกอีใสขณะที่ตั้งครรภ์ได้ 36 สัปดาห์ มีโอกาสที่เมื่อเด็กคลอดออกมาจะติดเชื้อและกลายเป็นอีสุกอีใส ซึ่งการเป็นโรคอีสุกอีใสในทารกแรกคลอด อาการมักจะรุนแรงและเกิดภาวะแทรกซ้อนได้มาก เช่น ปอดอักเสบ เยื่อหุ้มสมองอักเสบ ตับอักเสบ เป็นต้น อีกทั้งมารดาเองหากป่วยเป็นโรคนี้ในระหว่างที่ตั้งครรภ์ อาการก็มักรุนแรงและมีโอกาสเกิดภาวะแทรกซ้อนด้วยเช่นกัน

               แต่หากเคยเป็นโรคอีสุกอีใสมาแล้ว ตุ่มน้ำใสที่เกิดอาจจะไม่ใช่งูสวัดค่ะ อาจเป็นผื่นแพ้สัมผัส หรือผื่นจากการติดเชื้อแบคทีเรียก็ได้ค่ะ แต่หากเป็นงูสวัดจริง (ซึ่งเกิดจากเชื้อไวรัสที่หลบซ่อนอยู่ในร่างกายเราเอง ไม่ได้เป็นโรคติดต่อจากคนอื่นค่ะ) ก็จะไม่อันตรายต่อทารกในครรภ์และมารดาค่ะ

                ดังนั้นหากภรรยาของคุณ Yuttana Ngokngam ไม่เคยเป็นอีสุกอีใสมาก่อน แนะนำให้ไปพบแพทย์ตรวจวินิจฉัยโดยเร็วค่ะ