ถามแพทย์

  • ฉีดยาคุม DMPA ทุก 1 เดือน เพื่อรักษาเยื่อบุโพรงมดลูกเจริญผิดที่ มีอาการปวดท้องน้อยมากขึ้น เลือดออกเยอะ ปกติไหม

  •  Ap Ple's Srikaew
    สมาชิก

    ฉีดยาคุม (DMPA) ฉีดทุกๆ 1 เดือน โดยเข็มที่ 1-3 มีอาการปวดท้องน้อยนิดหน่อยและมีประจำเดือนกระปริดกระปรอย พอฉีดเข็มที่ 4-5 เริ่มมีอาการปวดท้องน้อยมากขึ้น ประจำเดือนเยอะขึ้นและมีลิ่มเลือด แบบนี้ปกติไหมคะ (สาเหตุที่ฉีด เพราะเป็นเยื่อบุโพรงมดลูกเจริญผิดที่และมีถุงน้ำในรังไข่)

    สวัสดีค่ะ คุณ Ap Ple's Srikaew,

                        หากเป็นเยื่อบุโพรงมดลูกเจริญผิดที่ และมีถุงน้ำในรังไข่อยู่ (โดยเป็นช็อกโกแลตซีสต์) ก็จะทำให้มีอาการปวดท้องน้อยขณะที่มีปะจำเดือนมาได้ รวมถึงอาจมีปวดท้องน้อยในช่วงที่ไม่มีประจำเดือน และอาจทำให้ประจำเดือนมานานกว่าปกติ หรือเกิดเลือดออกกะปริดกะปรอยระหว่างรอบเดือนได้

                        สำหรับการรักษานั้น หากอาการเป็นไม่มาก ก็อาจใช้ฮอร์โมนรักษา โดยการฉีดยาคุมกำเนิดดังที่ทำอยู่ ซึ่งหากเป็นยาฉีดชนิด DMPA ซึ่งเป็นยาฉีดชนิด 3 เดือน แพทย์อาจให้ฉีดทุก 1 เดือนในช่วงแรก หลังจากนั้น ควรฉีดทุกๆ 3 เดือน หากยังคงฉีดทุกๆ 1 เดือนต่อไป ก็อาจมีผลทำให้เกิดเลือดออกผิดปกติ และมีปวดท้องน้อยดังที่เป็นอยู่ได้ค่ะ 

                        แนะนำควรปรึกษาแพทย์ที่รักษา ในการพิจารณาเปลี่ยนมาฉีดทุกๆ 3  เดือนแทน รวมถึงตรวจว่าเยื่อบุโพรงมดลูกและซีสต์ที่เป็นอยู่ มีขนาดที่ลดลงหรือไม่ หากตรวจพบว่ามดลูกหรือซีสต์มีขนาดที่ใหญ่ขึ้น แสดงว่าไม่ตอยสนองต่อการรักษาด้วยฮอร์โมน ก็อาจต้องพิจารณาใช้การรักษาโดยการผ่าตัดต่อไปค่ะ