ถามแพทย์

  • ฉีดยารักษาซิฟิลิสครบ 3 เข็ม แต่ค่าซิฟิลิซเพิ่มจาก 1:4 เป็น 1:8 เกิดจากอะไร

  •  Cloud
    สมาชิก

    ผมตรวจพบเชื้อซิฟิลิสเมื่อเดือนมีนาคมที่ผ่านมา รักษาโดยฉีดยา 3 เข็ม (วีคละ 1 เข็มติดต่อกัน 3 วีคจนครบ) จบเข็มสุดท้ายเมื่อเดือนเมษา ตอนสงกรานต์พอดี
    และเมื่อวันที่ 26 พ.ค. มีนัดติดตามผล ซึ่งผลออกมาว่าค่าไตเตอร์อยู่ที่ 1:8 จากเดิมเมื่อเดือนมีนาคม (ก่อนฉีดยา) อยู่ที่ 1:4 ซึ่งจะเห็นว่าค่ามันขึ้นมานิดหน่อย แต่คุณหมอบอกว่าค่ามันอาจจะแกว่งได้ ถือว่าไม่ได้สูงอะไร และการรักษาจะรู้ผลแน่นอนหลังจากฉีดยาครบ 6 เดือน ซึ่งจะนัดตรวจค่าซิฟิลิสอีกทีเดือนตุลาคมครับ

     

    จึงอยากปรึกษาคุณหมอว่า อาการที่ข้างต้นเป็นอาการปกติหรือไม่ กรณีอย่างแย่เลย มันมีโอกาสที่จะเพิ่มขึ้นไหมครับ และถ้ามันเพิ่มจะมีผลมาจากอะไร เช่น การรักษาที่ไม่ตรงตามระยะ เพราะไม่ทราบระยะได้ หรือมีการดื้อยา แต่ก็หวังว่ามันจะหายเป็นปกติครับ รบกวนด้วยนะครับ

    ขอบคุณครับ

     

     

    Cloud  พญ.นรมน
    แพทย์

     สวัสดีค่ะคุณ Cloud

    ซิฟิลิสเป็นโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์อย่างหนึ่ง เกิดจากเชื้อแบคทีเรียชนิดเกลียว ทำให้มีอาการแผลที่อวัยวะเพศ ผื่นตามตัว ในระยะแรก หลังจากนั้นถ้าปล่อยไว้นานหลายปีไม่ได้รักษาจะลุกลามไปทำให้เกิดโรคในระบบประสาท สมอง หรือหัวใจและหลอดเลือดได้ แต่เป็นโรคที่ปัจจุบันจะไปถึงระยะรุนแรงได้น้อย เพราะสามารถรักษาได้แต่เนิ่นด้วยการให้ยาฆ่าเชื้อเพนนิซิลินทำให้โรคหายขาดได้

    จากที่กล่าวมา หลังทำการรักษา จะต้องมีการนัดกลับไปเจาะเลือดติดตามค่าซิฟิลิซว่าลดลงเกิน 4 เท่า จึงจะถือว่าตอบสนองต่อการรักษา โดยจะเจาะเลือดซ้ำที่ 6 12 และ 24 เดือน โดยปกติค่าเลือดจะต้องน้อยกว่า 4 เท่าจากแรกเริ่มภายใน 12 เดือนหลังเข้ารับการรักษา

    โดยควรกลับไปเจาะเลือดตามนัด ส่วนใหญ่ซิฟิลิซดื้อยาพบน้อย หลังรับการรักษาจนครบโรคมักจะหายขาดหรือดีขึ้นได้ค่ะ ถ้าไม่ตอบสนอง อาจจะเกิดจากการรับยาไม่ครบ เชื้อดื้อยาซึ่งพบได้น้อย ซึ่งอาจต้องมีการปรับเปลี่ยนชนิดของยาฆ่าเชื้อ หรือเพิ่มชนิดของยาฆ่าเชื้อภายใต้การดูแลของแพทย์ผู้เชี่ยวชาญต่อไป