ถามแพทย์

  • รบกวนดูผลเลือด และต้องไปฉีดวัคซีนป้องกันไวรัสไวรัสตับอักเสบ บีไหม

  •  ตัง เมย์
    สมาชิก
    สวัสดีค่ะคุณหมอ ตรวจเลือดครั้งแรก Anti-HBs เป็น NEGATIVE ฉีดยาเข็มที่1 ตรวจเลือดครั้งที่2 Anti-HBs เป็น POSITIVE ฉีดยาเข็มที่2 -ติดเชื้อไวรัสตับอักเสบบีไหมค่ะ -จะต้องได้ทำการรักษาไหมค่ะ -จะได้ฉีดยาป้องกันไวรัสตับอักเสบบีเข็มที่3ไหมค่ะ

    คุณ ตังเมย์

    โรคไวรัสตับอักเสบบี เป็นโรคที่ติดต่อกันทางเลือดและสารคัดหลั่ง โดยผ่านทางรก การมี พสพ  คนไทยมีโรคนี้เป้นพาหะโดยไม่มีอาการถึง 10%  ส่วนใหญ่เป็นแล้วหายได้เอง   โดยทั่วไปคนที่เป็นโรคนี้จะมีภูมิต้านทานเกิดขึ้นทำให้เจาะเลือดจะพบว่า antibody เป็น positive  แสดงว่าเคยเป็นโรคนี้มาแล้ว  แต่บางคนเคยเป็นเคยฉีดยาแต่ผลการตรวจก็เป็น negative ได้   แต่ถ้าผลตรวจ antigen เป็น positive หมายความว่ามีไวรัสบีใน เลือด ถ้าไม่มีอาการอะไรก็เป็นพาหะทำให้ติดต่อคนอื่นๆได้ และถ้าต่อไปอาจเป็นสาเหตุให้เกิดเป็นตับอักเสบเรื้อรังหรือมะเร็งตับได้  แพทย์จึงแนะนำให้ฉีดวัคซีนป้องกันไว้ก่อนเฉพาะในคนที่ไม่มีภูมิต้านทาน   อันที่จริงในผู้ใหญ่ที่มีภูมิต้านทานแล้วจะไม่จำเป้นต้องฉีด  

    -ในกรณีของคุณไม่มีภูมิต้านทาน  แต่เมื่อฉีดวัคซีนแล้วเข็ม ที่ 1 วัคซีนจะไปกระตุ้นให้เกิดการสร้างภูมิต้านทานให้เกิดขึ้นเมื่อเจาะเลือดตรวจซ้ำจะพบ่ามี ภุมิต้านทาน (antibody) เป็นบวก   เป็นเรื่องปกติครับ  ถ้าไม่ขึ้นจึงจะผิดปกติ   ไม่ใช่บวกจากการติดเชื้อนะครับ จึงไม่จำเป็นต้องรักษา   

    -ปกติวัคซีนไวรัสตับอักเสบบี ต้องฉีด 0  เข็มสองอีก 1 เดือน  เข็มสามห่างเข็มสอง  5  เดือน (0,1,6)  ดังนั้นจึงควรฉีดเข็มที่สามเพื่อให่ครบ course ครับ  เมื่อฉีดครบแล้วจะป้องกันได้นานตลอดชีวิต  แพทย์จึงมักจะฉีดให้เด็กทารกแรกเกิดเลย