ตื่นมามีอาการปัสสาวะบ่อย รู้สุกปัสสาวะไม่สุด เป็นทั้งวัน เกิดจากอะไร

สวัสดีค่ะ คุณ นภัทภร พราหมณ์ชื่น,

                   อาการปัสสาวะบ่อย  อาจเกิดจาก

                  1.การติดเชื้อทางเดินปัสสาวะส่วนล่าง จะทำให้รู้สึกปัสสาวะบ่อย แต่ออกครั้งละน้อย และมักจะมีอาการแสบและปวดขณะปัสสาวะร่วมด้วย อาจมีอาการกลั้นปัสสาวะไม่ได้ ปัสสาวะไม่สุด ปัสสาวะขุ่น หรือปัสสาวะมีเลือดปน ซึ่งสาเหตุของเชื้อ แบ่งเป็น

                  - เชื้อแบคทีเรียชนิดต่างๆ มักเกิดตามหลังการกลั้นปัสสาวะหรือดื่มน้ำน้อย 

                  - เชื้อจากโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ เช่น หนองในแท้ หนองในเทียม  ซึ่งนอกจากอาการปัสสาวะที่ผิดปกติแล้ว จะมีตกขาวที่ผิดปกติ และอาการปวดท้องน้อยร่วมด้วย รวมถึงอาการเจ็บขณะมีเพศสัมพันธ์

                  2. การดื่มน้ำมากไป ดื่มแอลกอฮอล์มากหรือเครื่องดื่มที่มีคาเฟอีนมากไป แต่ปริมาณของปัสสาวะมักจะมากตามด้วย 

                  3. โรคเบาหวาน โรคเบาจืด มักมีอาการหิวน้ำบ่อยร่วมด้วย และปริมาณของปัสสาวะจะมากตามด้วย และจะมีอาการอื่นๆ ร่วมด้วยอีก 

                  4. กระเพาะปัสสาวะบีบตัวไวเกิน (overactive bladder) นอกจากปัสสาวะบ่อยครั้ง อาจมีอาการกลั้นปัสสาวะไม่ได้ ปัสสาวะเล็ดราดร่วมด้วย 

                  5. นิ่วหรือก้อนเนื้อในกระเพาะปัสสาวะ หรือเนื้องอกมดลูก และไปกดเบียดกระเพาะปัสสาวะ ทำให้กระเพาะปัสสาวะเต็มเร็วขึ้น เลยทำให้ปวดปัสสาวะบ่อยขึ้นกว่าปกติ

                   6. ไตเรื้อรัง ไตวาย มักมีอาการปัสสาวะบ่อยในช่วงกลางคืนมากกว่ากลางวัน และจะมีอาการอื่นๆ อีก เช่น หนังตาบวม ขาบวม เหนื่อยง่าย คลื่นไส้ อาเจียน เบื่ออาหาร เป็นต้น

                   7. การมีความเครียด วิตกกังวล ก็จะทำให้มีความรู้สึกปวดปัสสาวะบ่อยได้ 

                   8. อุณหภูมิของอากาศที่เย็น ก็จะทำให้รู้สึกปวดปัสสาวะบ่อยได้

                  ในเบื้องต้นหากเพิ่งมีอาการในวันนี้ และปริมาณปัสสาวะออกครั้งละไม่มาก ก็น่าจะเกิดจากการติดเชื้อในทางเดินปัสสาวะ แนะนำให้พยายามดื่มน้ำมากๆ ไปก่อน เพื่อช่วยขับแบคทีเรียออกมา หลีกเลี่ยงการดื่มชา กาแฟ หรือแอลกอฮอล์ ไม่กลั้นปัสสาวะ หลีกเลี่ยงการมีเพศสัมพันธ์ไปก่อนชั่วคราว หากอาการไม่ดีขึ้น ควรไปพบแพทย์เพื่อตรวจและรักษาตามสาเหตุค่ะ