ถามแพทย์

  • ปัสสาวะเป็นเลือด ทานยาฆ่าเชื้อเกือบหมดแล้วยังไม่ดีขึ้น ควรทำอย่างไร

  •  naranee
    สมาชิก
    สวัสดีค่ะ ดิฉันอายุ 24 ปี มีอาการฉี่ขัดๆ ไม่สุด และปวดฉี่บ่อยมา 4 วันแล้ว ช่วงใกล้ฉี่เสร็จจะรู้สึกเสียวๆหรือเจ็บนิดหน่อยและมีเลือดหยดออกมาทุกครั้งที่ฉี่ อาการปวดท้องปวดหลังไม่มีค่ะ เบื้องต้นไปหาหมอมาแล้ว ตรวจฉี่และเอ็กสเรย์ไม่พบนิ่วค่ะ หมอให้ยาปฎิชัวนะมาทาน 1 อาทิตย์แล้วนัดไปตรวจฉี่อีกครั้ง ตอนนี้ดิฉันทานสี่วันแล้ว อาการยังเหมือนเดิมทุกอย่าง ยังมีเลือดไหลและเจ็บเหมือนเดิม ดิฉันควรไปพบแพทย์เลยดีไหมคะ หรือควรรอกินยาให้หมดก่อน และอาการดังกล่าวดิฉันดิฉันเข้าข่ายเป็นโรคอะไรคะคุณหมอ ปล.ยาที่หมอให้ดิฉันมากินชื่อว่า CIPROFLOXACIN 500 mg ค่ะ ตัวนี้จะช่วยให้เลือดหยุดไหลไหมคะ เพราะตอนนี้เลือดยังไหลเหมือนเดิมค่ะ ดิฉันจึงมีความกังวลว่าควรไปพบแพทย์ก่อนหรือไม่ ขอบคุณมากค่ะคุณหมอ
    naranee  พญ.นรมน
    แพทย์

    สวัสดีค่ะคุณ naranee

    การวินิจฉัยที่เป็นไปได้

    -กระเพาะปัสสาวะอักเสบ อาจมีอาการปัสสาวะขัด ปัสสาวะบ่อยและไม่สุดหรือปัสสาวะมีเลือด ปวดท้องน้อย

    -กรวยไตอักเสบ อาการคล้ายกระเพาะปัสสาวะอักเสบ แต่มักมีไข้สูงและหนาวสั่นร่วมด้วย

    -นิ่วในทางเดินปัสสาวะ ทำให้ปวดท้องร้าวไปหลังหรือขาหนีบ มีปัสสาวะเป็นเลือดได้

    เบื้องต้นถ้าตรวจปัสสาวะพบการติดเชื้อ แพทย์จะจ่ายยาฆ่าเชื้อ และยาแก้ปวดมาให้ก่อน เมื่อการติดเชื้อดีแล้ว อาจจะทำอัลตราซาวน์ไตและทางเดินปัสสาวะว่ามีนิ่วหรือไม่ นิ่วบางชนิดอาจไม่พบจากการเอ็กซเรย์ธรรมดาค่ะ

    แนะนำถ้าได้รับยาฆ่าเชื้อมา กินจนหมดแล้ว ไม่ดีขึ้น ยังปัสสาวะเป็นเลือดอยู่ ควรกลับไปพบแพทย์ อาจเกิดจากเชื้อดื้อยา หรือเป็นเชื้อที่ลุกลามไปที่กรวยไตแล้วอาจจำเป็นต้องได้รับยาฆ่าเชื้อที่ครอบคลุมมากขึ้นเช่นยาฆ่าเชื้อแบบฉีดติดต่อกัน 3-5 วัน หากมีไข้สูง หนาวสั่น ผลเลือดมีเม็ดเลือดขาวสูงมาก อาจต้องสังเกตอาการในรพ.