ถามแพทย์

  • ชอบเก็บคำพูดที่คนอื่นมาคิดมาก แล้วชอบไประบายด้วยการร้องไห้คนเดียว มีความคิดอยากจบชีวิตตัวเอง ควรทำอย่างไร

  •  name43
    สมาชิก

    หนูเป็นแบบนี้ตั้งแต่ตอนเริ่มขึ้นม.1ค่ะ ตอนนั้นหนูรู้สึกว่าชีวิตหนูดูสดใสมากค่ะ จนกระทั่งตอนนี้ม.3แล้ว หนูเริ่มคิดมากกับคำพูดคนรอบข้างหนักขึ้น ใครพูดว่าด่าอะไรก็จะเก็บมาคิดคนเดียวแล้วก็ร้องไห้เพราะไม่มีใครสนใจในสิ่งที่หนูเป็นเลย ไปพูดให้ใครฟังเขาก็บอกว่าคิดมากไปเอง คิดมากเกินไป แต่สำหรับหนู คนพูดอาจจะไม่คิดว่ามันแรงหรือจะกระทบใจจิตใจอะไร แต่หนูคือคนฟังและได้ยิน ต่อให้คนอื่นจะคิดว่ามันแค่นี้ แต่สำหรับหนูมันหน่วงใจมากค่ะ ยิ่งช่วงนี้เรียนออนไลน์อยู่บ้าน หนูเลยอยู่แต่ในห้อง เรียนทำการบ้านจนไม่ออกไปไหน ห้องหนูกลายเป็นเซฟโซนที่ดีที่สุดสำหรับหนู พอออกไปข้างนอกก็วุ่นวาย มีแต่เรื่องให้ปวดหัว หนูเป็นแบบนี้หนักขึ้นตั้งแต่วันเกิดหนูค่ะ กำลังเป่าเค้กกันปกติแบบทุกปี อยู่ๆยายคนโตก็โวยวายบอกให้เอาเค้กที่ตัวเองซื้อให้หนูเอาไปเก็บแล้ววันพรุ่งนี้จะเอาไปให้หมากิน ตอนนั้นหนูกลั้นน้ำตาไว้เลยค่ะ จนยายขับรถออกไปจากบ้าน หนูก็ร้องไห้ต่อหน้ายายคนเล็กแล้วก็พี่ชายค่ะ ตอนนั้นหนูก็ไม่เข้าใจค่ะว่าหนูทำอะไรผิด พอวันเกิดคนอื่นๆมาถึง กลับมีความสุขกันหมด เป่าเค้กพร้อมรอยยิ้มกับทุกคนที่มาอวยพร แต่กลับกันวันเกิดหนูกลับแย่ที่สุด เวลาพิมแชทกับเพื่อน เพื่อนบ่นด่าก็คิดมากค่ะ จนร้องไห้ หนูพยายามบอกเพื่อนนะคะว่าเราเป้นแบบนี้ๆนะ แต่เพื่อนก็ไม่เข้าใจค่ะ เราทำอะไรไม่ได้ดั่งใจหรือคะแนนเยอะกว่า ก็จะมาบ่นในกลุ่มแชทว่าทำไมตัวเองได้ ทำไมหนูได้เยอะ หนูก็งงค่ะว่าเขาใช่เพื่อนเราจริงๆไหม จนหนูเจออะไรมากระทบนิดหน่อยก็จะร้องแล้วค่ะ แต่ด้วยความที่โตขึ้นเรื่อยๆ ทำให้หนูกลั้นน้ำตาใต้รอยยิ้มเก่ง จนปัจจุบันหนูก็แก้ไขตรงนี้ไม่ได้ จะทำยังไงให้หนูไม่เก็บคำพูดคนอื่นมาคิด หนูพยายามจะไม่สนใจเวลาใครพูดอะไรที่ไม่ดี แต่หนูไม่เคยทำได้เลยค่ะ จนบางครั้งหนูอยากจะจบๆชีวิตตัวเองให้ได้ ไม่อยากอยู่แล้ว ประโยคนี้มันวนอยู่ในหัวหนูตลอดเวลา แต่หนูก็ทำไม่ได้เพราะยังมีพ่อกับแม่ที่หนูต้องทำให้สบายก่อน หนูเป็นโรคทางจิตรึป่าวคะ มันร้ายแรงไหม หนูไม่ชอบเลยค่ะเวลาเป็นแบบนี้

    name43  พญ.นรมน
    แพทย์

     สวัสดีค่ะคุณ name43

    อาการที่ชอบเก็บคำพูดที่คนอื่นมาคิดมาก แล้วชอบไประบายด้วยการร้องไห้คนเดียว คิดมากวนไปมานั้น อาจจะเป็นอาการที่เกิดขึ้นได้ชั่วคราว เมื่อต้องเจอปัญหาหรือความไม่สบายใจต่างๆในชีวิต แต่ถ้าเป็นมาก หดหู่เยอะ อาจเข้าข่ายภาวะซึมเศร้า โรคซึมเศร้า การเปลี่ยนแปลงทางอารมณ์ไปอย่างผิดปกติได้

    การวินิจฉัยว่าเป็นโรคซึมเศร้านั้น ผู้ป่วยจะมีภาวะซึมเศร้า หดหู่ติดต่อกันอย่างน้อย 2 อาทิตย์ขึ้นไป โดยไม่มีช่วงที่ดีขึ้นเลย มีความคิดอยากฆ่าตัวตาย อาจมีอาการเบื่ออาหาร หรือในบางรายก็จะไปรับประทานทานอาหารมากขึ้น น้ำหนักเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว นอนน้อยหรือนอนมากกว่าปกติ และเก็บตัวมากจนไม่ออกไปทำงาน ไม่ออกไปเข้าสังคม 

    อาการที่กล่าวมา อาจจะเป็นความคิดไปในเรื่องที่ทำให้ไม่สบายใจมากกว่า แนะนำการทำใจให้สบาย อยู่กับปัจจุบัน นึกถึงสิ่งดีๆที่มีในชีวิต หางานอดิเรกที่ชอบทำเพื่อเบี่ยงเบนความสนใจจากความคิดต่างๆบ้าง และสังเกตอาการ ถ้ายังมีอาการคิดวนไปมาต่อเนื่อง จนทำให้หดหู่มาก ไม่สามารถไปเรียน ไปทำงาน หรือไปเข้าสังคมได้ตามปกติ ทำอะไรที่ชอบก็ไม่สนุกเลย ควรไปพบแพทย์เพื่อตรวจเพิ่มเติม