ถามแพทย์

  • มีอาการชาครึ่งซีกเล็กน้อย และค่อยๆหายไปเอง เกิดจากอะไรได้บ้าง

  •  Piranut Stmpw
    สมาชิก
    สวัสดีครับ อายุ 22ครับ เมื่อสามวันก่อน ผมนอนเล่นโทรศัพท์อยู่ จู่ๆก็รู้สึกได้ว่าแขนซ้ายปวกเปียกลงเล็กน้อย นึกว่าชาปกติเลยลองนอนเผื่อจะหาย แต่ไม่หายไป จึงลงมาข้างล่างบ้าน พบว่าใบหน้าซ้ายก็มีอาการชาด้วย รวมถึงกล่องเสียงด้านซ้าย และขาซ้าย ไม่ได้รุนแรงมาก แต่กังวลว่าจะเป็น stroke เลยไปพบแพทย์ แพทย์ตรวจคลื่นหัวใจ วัดความดัน ทำหัตถการ ยังต้านแรงได้หมอกดได้ แต่แค่แรงน้อยลงเล็กน้อย หมอบอกว่ายังไม่ใช่อาการ stroke แต่มีความเป็นไปได้ว่าเกี่ยวกับประสาทอักเสบ อีกอย่างเพราะผมเป็นคนความดันปกติด้วย หมอให้นอนดูอาการ 1 คืน โดยให้ยาคลายเครียดและยาเกี่ยวกับประสาทมาทาน ปรากฏว่าค่อยๆดีขึ้น จนตอนนี้ปกติแล้วภายใน 2-3 วัน แต่ยังค้างใจอยู่ว่า 1.เกิดอะไรขึ้นกับผมกันแน่ครับ ทำไมอาการถึงเหมือน stroke มาก คือชาครึ่งซีก แต่แค่ค่อนข้าง mild 2.ผมจะป้องกันไม่ให้เกิดสิ่งนี้ขึ้นอีกได้อย่างไรครับ ขอบคุณมากๆครับ

    สวัสดีครับ คุณ Piranut Stmpw

    หากตรวจยืนยันแล้วว่าไม่ใช่ภาวะหลอดเลือดสมองตีบ  สาเหตุของอาการชาหรืออ่อนแรงด้านซ้ายที่พบบ่อยก็คือ เส้นประสาทอักเสบ โดยเฉพาะเส้นประสาทที่มาเลี้ยงใบหน้า ซึ่งในปัจจุบัน หลายกรณียังไม่สามารถหาสาเหตุได้แน่ชัด แต่มีการสันนิษฐานว่าอาจเกิดจากการติดเชื้อไวรัส เช่น ไวรัสอีสุกอีใส หรือ งูสวัด  ส่วนที่มีอาการทั้งซีกซ้ายชาด้วยนั้น ก็อาจเป็นเพราะ มีประสาทอักเสบในตำแหน่งอื่น หรือการส่งกระแสประสาทตรงแขนถูกรบกวน ครับ

    และด้วยเหตุนี้ เนื่องจากยังไม่มีสาเหตุแน่ชัด จึงยากที่บอกวิธีป้องกัน  กระนั้น ก็ควรพักผ่อนให้เพียงพอ รับประทานอาหารให้ครบ 5 หมู่ และสังเกตอาการ  หากมีชาหรืออ่อนแรง ก็ควรพบแพทย์ทันทีครับ