ถามแพทย์

  • เป็นซิฟิลิส ฉีดยาไป 1 เข็มแล้วไม่หาย จึงได้ฉีดยาเพิ่ม 3 เข็ม แบ่งเป็นสัปดาห์ละครั้ง ตอนนี้เป็นโรคระยะอะไร ต้องปฏิบัติตัวอย่างไร

  •  nasa2045
    สมาชิก

    คือตอนรักษาระยะแรกๆที่เป็น ได้ฉีดยา 1 เข็ม และไปตามที่หมอนัด ค่าเลือดดีมาตลอด แต่วันนี้ไปตรวจกลับพบว่าค่าเลือดมันบวกมากกว่าเดิม จึงได้ฉีดยาเพิ่ม 3 เข็ม แบ่งเป็นสัปดาห์ละครั้ง ******ระยะการรักษาไม่เคยมีเพศสัมพันธ์เลย*********

    อยากทราบว่า

    1. ในตอนที่เรารู้ว่าเป็นโรคนี้  หมอบอกเราเป็นระยะแรก และรักษามาแล้วปีนิดๆ แล้ววันนี้เรามีค่าเลือดบวกเพิ่ม ระยะการติดเชื่อซิฟิลิส จะเรียกว่าเราอยู๋ในระยะไหนค่ะ?? 

    2. มันมีผลกระทบ หรือปัญหาเกี่ยวกับเราเรื่องอะไรบ้างค่ะ ??

    3.วิธีการปฎิบัติดูแลตัวเองที่ถูกวิธีมีอะไรบ้าง? ไม่ควรรับประทานอะไร? 

    รบกวนด้วยน่ะค่ะ

    nasa2045  พญ.นรมน
    แพทย์

     สวัสดีค่ะคุณ nasa2045

    ซิฟิลิสคือการติดเชื้อแบคทีเรียที่เป็นโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์อย่างหนึ่ง มี 4 ระยะ ได้แก่ ระยะแรกจะมีแค่แผลที่อวัยวะเพศหรือต่อมน้ำเหลืองโต ระยะที่สองจะพบผื่นตามร่างกาย มีไข้ต่ำๆ ระยะแฝงหรือระยะที่สาม คือระยะที่ไม่แสดงอาการ แต่เชื้อจะซ่อนอยู่ในร่างกายจนกระทั้่งเข้าสู่ระยะสี่ คือเริ่มมีอันตรายต่อระบบประสาท ระบบหัวใจและหลอดเลือด เกิดหลังจากได้รับเชื้อประมาณ 3-10 ปี 

    โรคซิฟิลิซในปัจจุบันถ้าเจอเร็ว รักษาเร็ว ไม่น่ากลัวค่ะ เพราะสามารถรักษาให้หายได้ด้วยการให้ยาฆ่าเชื้อเพนนิซิลิน ฉีด 1 หรือ 3 เข็มขึ้นกับระยะของโรค

    โดยหลังการให้ยานั้น แพทย์จะนัดกลับมาติดตามค่าเลือดว่าตอบสนองต่อยาหรือไม่ การไม่ตอบสนองต่อยาในครั้งแรกที่ให้นั้น อาจจะทำให้แพทย์ต้องเปลี่ยนแผนการรักษาหรือประเมินระยะของโรคใหม่อีกครั้ง ซึ่งระยะของโรคที่จะเริ่มให้ยา 3 เข็มก็คือระยะแฝงหรือระยะที่ 3 ค่ะ หลังฉีดยาควรกลับไปติดตามอาการและค่าเลือดตามแพทย์นัดต่อไป

    ไม่มีอาหารที่เป็นข้อห้ามระหว่างเป็นซิฟิลิซค่ะ สามารถรับประทานได้ตามปกติ ข้อควรระวังตัวคือไม่ไปรับเชื้อมาเพิ่ม โดยงดการมีเพศสัมพันธ์ไปก่อน หรือถ้าจะมีต้องใส่ถุงยางอนามัยป้องกัน ไม่ใช้สิ่งของส่วนตัวร่วมกับผู้อื่น ระวังการที่สารคัดหลั่งของตนเองจะไปโดนแผลของผู้อื่นเพื่อป้องกันการแพร่เชื้อต่อไปค่ะ