ถามแพทย์

  • หลังจากมีเพศสัมพันธ์ มีตกขาวมีกลิ่นมาตลอด เป็นมา 3 เดือน เกิดจากอะไร

  • คือก่อนหน้านี้ตกขาวไม่มีกลิ่นค่ะ แต่พอคบกับแฟนคนก่อนแล้วมีเพศสัมพันธ์กันจากตกขาวที่ไม่มีกลิ่นกลายเป็นมีกลิ่นค่ะ กลิ่นเหม็นออกเหมือนกลิ่นเค็มก็ไม่ใช่กลิ่นเน่าก็ไม่เชิงอะค่ะอธิบายกลิ่นไม่ถูกเหมือนกัน มีกลิ่นแต่ไม่คันนะคะแล้วสีตกขาวบางครั้งก็สีขาวบางครั้งก็เป็นน้ำเมือกค่ะ แล้วก็เป็นมา3เดือนกว่าๆแล้วด้วยทีแรกคิดว่าถ้าประจำเดือนมาคงจะหายเพราะปกติถ้าประจำเดือนจะมาตกขาวจะเป็นแบบนี้แต่กลิ่นน้อยกว่า พอประจำเดือนมาจนหมดแล้วก็ยังเป็นอยู่เลยค่ะ อยากทราบว่าที่เป็นอยู่ตอนนี้ติดเชื้อจากเพศสัมพันธ์หรือติดเชื้อจากเชื้อราคะ แล้วต้องกินยาตัวไหนถึงจะหายขาด

     สวัสดีค่ะ คุณ ดญ.น่าตา' เฉิ่มม,

                        หากตกขาวเกิดหลังจากมีเพศสัมพันธ์ และมีกลิ่นเหม็นผิดปกติ อาจเกิดจากมีการอักเสบของช่องคลอดจากเชื้อแบคทีเรีย (bacterial vaginosis) ซึ่งอาการคือ มีตกขาวปริมาณมากกว่าปกติ มีกลิ่นเหม็น คล้ายกลิ่นคาวปลา โดยที่ไม่มีอาการคันหรือแสบช่องคลอด ไม่มีปวดท้องน้อย

                       ซึ่งปัจจัยที่อาจทำให้เกิด เช่น การมีเพศสัมพันธ์มากกว่า 1 คน หรือมีการเปลี่ยนคู่นอน การสวนล้างช่องคลอดบ่อยไป หรือใช้สบู่หรือน้ำยาที่มีความรุนแรง หรือเกิดจากการทานยาปฏิชีวนะฆ่าเชื้อบ่อยๆ แต่ไม่ได้จัดเป็นโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ เพราะฝ่ายชายจะไม่ได้ติดเชื้อชนิดนี้ไปด้วย ซึ่งหากอาการตกขาวเกิดจากสาเหตุนี้ อาจไม่จำเป็นต้องพบแพทย์ เพราะสามารถหายเองได้ หากหลีกเลี่ยงปัจจัยในการเกิดดังกล่าว แต่หากอาการเป็นมาก อาจทานยาปฏิชีวนะฆ่าเชื้อ เช่น เมโทรนิดาโซล (metronidazole), คลินดามัยซิน (clindamycin) เป็นต้น 

                        แต่หากมีอาการแสบหรือคันช่องคลอด หรืออวัยวะเพศภายนอก ก็อาจเกิดจากการติดเชื้อราในช่องคลอดได้ ซึ่งการรักษา คือการใช้ยาสอดหรือทาทานสำหรับฆ่าเชื้อรา เช่น clotrimazole เป็นต้น แต่ตกขาวมีสีเขียวเหลืองคล้ายหนอง หรือมีปวดท้องน้อยร่วม ก็อาจเกิดจากการติดโรคทางเพศสัมพันธ์ต่างๆ ได้ เช่น หนองในแท้ หนองในเทียม หรือเป็นมดลูกอีกเสบ ซึ่งในกรณีนี้ ก็ควรไปพบแพทย์เพื่อตรวจหาสาเหตุค่ะ