ถามแพทย์

  • ฝังยาคุมกำเนิด ประจำเดือนมาบ่อย มีตกขาวสีน้ำตาล คันช่องคลอด อยากทราบว่าเกิดจากอะไรและวิธีรักษา

  •  Baabu
    สมาชิก
    หนูคุมกำเนิดด้วยการฝังยาคุมค่ะ ปจดมา.2อาทิตกว่าๆ หยุดพักได้ประมาน1อาทิต ปจด.ก็มาต่อ ระหว่างที่หยุดพัก มีอาการคันช่องเพราะเคยเป็นเชื้อรามาก่อน มันกลายเป็นลูปที่ว่า ปจด.มา เชื้อรามาต่อ ทรมานมากค่ะ ในเดือนนี้ตกขาวมีสีน้ำตาลอ่อน พอเช็ดกับทิชชู่เหมือนมีเลือดปนอยู่ด้วย อยากทราบว่าเกิดจากอะไร เเละขอวิธีการรักษาเชื้อราให้หายขาดด้วยค่ะ

    สวัสดีค่ะ คุณ Baabu,

                          ผลข้างเคียงของยาฝังคุมกำเนิดที่อาจพบได้ ได้แก่ การมีเลือดออกกะปริดกะปรอย หรือมีเลือดออกมามากติดต่อกันหลายวัน ประจำเดือนมาไม่สม่ำเสมอ ประจำเดือนมาบ่อย โดยมากมักจะเป็นเฉพาะในช่วง 2-3 เดือนแรก หรืออาจนานเกือบปีได้ หลังจากนั้นประจำเดือนจะค่อยๆ มาน้อยลง และอาจขาดหายไป ซึ่งเป็นผลจากการที่เยื่อบุผนังโพรงมดลูกบางลงจากการออกฤทธิ์ของฮอร์โมน แต่ไม่ได้อันตรายแต่อย่างใดค่ะ เมื่อถอดยาฝังออกหรือยาฝังหมดอายุ ประจำเดือนก็จะกลับมาเป็นปกติค่ะ

                    สำหรับผลข้างเคียงอื่นๆ ที่อาจพบอีกได้แก่ มึนหัว เวียนหัว ปวดหัว คลื่นไส้ ปวดท้องน้อย น้ำหนักขึ้น เจ็บเต้านม ตกขาว เป็นต้น

                   ส่วนตกขาวที่มีสีน้ำตาลอ่อนนั้น น่าจะเป็นตกขาวที่มีเลือดปน ซึ่งหากเป็นเลือดเก่าก็จะมีสีน้ำตาล ซึ่งสาเหตุอาจเกิดจากผลข้างเคียงของยาฝังคุมกำเนิดที่ทำให้มีเลือดออกกะปริดกะปรอย เลือดจึงปนกับตกขาวออกมา เห็นเป็นตกขาวปนเลือดได้ หรืออาจเกิดจากสาเหตุอื่นๆ ได้อีก เช่น ติดเชื้อราในช่องคลอด ติดเชื้อแบคทีเรีย เชื้อปรสิต เชื้อโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ต่างๆ เป็นต้น

                    แนะนำว่า หากอาการตกขาวนั้นเป็นมาก รวมถึงมีตกขาวที่ไม่มีเลือดปน แต่มีสีแปลกไป เช่น เขียว เทา หรือมีกลิ่นเหม็น หรือคันและแสบช่องคลอด ปวดท้องน้อย ควรไปพบแพทย์เพื่อตรวจหาสาเหตุ จะได้รับการรักษาที่ถูกต้องค่ะ เนื่องจากการมีตกขาว คัน อาจไม่ได้เกิดจากการติดเชื้อราในช่องคลอดเพียงอย่างเดียว

                   สำหรับการติดเชื้อราในช่องคลอดนั้น แม้จะรักษาหาย ก็สามารถกลับมาเป็นได้อีกค่ะ ขึ้นอยู่กับปัจจัยในแต่ละคน โดยปัจจัยเสี่ยงในการติดเชื้อรา เช่น การตั้งครรภ์ เป็นเบาหวาน โรคอ้วน ระบบภูมิคุ้มกันบกพร่อง หรือทานยากดภูมิคุ้มกัน การทานยาปฏิชีวนะฆ่าเชื้อแบคทีเรียต่อเนื่องนานไป การสวนล้างช่องคลอดบ่อยไป หรือใช้สารเคมีที่รุนแรง เป็นต้น