ถามแพทย์

  • ตกขาวสีเหลืองอ่อน คันรอบอวัยวะเพศ แล้วมีประจำเดือนมา แต่มาช้า หลังจากนั้นกลับมีอาการอีก รักษาอย่างไร

  •  jinni
    สมาชิก

    สวัสดีค่ะ หนูมีตกขาวเป็นสีเหลืองอ่อนๆมีอาการคันรอบๆอวัยวะเพศ หลังจากนั้น 2-3 วันก็มีประจำเดือน(ประจำเดือนมาเลทประมาณ 28 วัน) แต่พอประจำเดือนหมด ตกขาวสีเหลืองอ่อน แล้วคัน ก็กลับมา แบบนี้ต้องใช้ยารักษาตัวไหนอย่างไรคะ

    สวัสดีค่ะ คุณ jinni,

                      หากประจำเดือนมาช้าผิดปกติ และที่ผ่านมาได้มีเพศสัมพันธ์ แนะนำควรลองตรวจหาการตั้งครรภ์ดูด้วยนะคะ

                      สำหรับอาการคันรอบๆ อวัยวะเพศ อาจเกิดจาก

                    - การติดเชื้อรา หากเกิดบริเวณอวัยวะเพศภายนอก ก็อาจมีผื่นสีแดง หรือผิวหนังแดงลอกเกิดขึ้น และหากมีการติดเชื้อในช่องคลอดร่วมด้วยก็จะมีตกขาวที่ผิดปกติ คือตกขาวมีปริมาณมาก มีสีขาวขุ่นจับตัวเป็นก้อนคล้ายแป้งเปียก หรือนมบูด

                    - การระคายเคืองหรือแพ้สัมผัสจากสารเคมีต่างๆ เช่น อาจแพ้ผงซักฟอก  หรือน้ำยาที่ใช้ซักกางเกงใน แพ้น้ำยาปรับผ้านุ่ม แพ้ผ้าอนามัย แพ้แป้งที่นำมาทาบริเวณอวัยวะเพศภายนอก รวมถึงแพ้เนื้อผ้ากางเกงใน เป็นต้น

                  - การเปียกชื้นบริเวณอวัยวะเพศเช่น ชุดชั้นในรัดมากเกินไป ไม่ระบายอากาศ  มีภาวะกลั้นปัสสาวะไม่อยู่ หรือเหงื่อออกมาก

                  - มีโรคหูดบริเวณอวัยวะเพศ

                  - เป็นโลนที่ขนอวัยวะเพศ หรือเหาที่ขนอวัยวะเพศ  ซึ่งจะติดมากับการมีเพศสัมพันธ์ หรือใช้เสื้อผ้า ผ้าเช็ดตัวร่วมกัน อาการคือจะคันมาก และจะยิ่งมีอาการคันมากขึ้นในเวลากลางคืน นอกจากนี้ยังอาจพบต่อมน้ำเหลืองที่บริเวณขาหนีบโตได้

                    ในเบื้องต้น ก็ควรหลีกเลี่ยงการใช้สิ่งต่างๆ บริเวณช่องคลอด เช่น ไม่สวนล้างช่องคลอด ไม่ทาแป้ง ไม่ทาโลชั่นใกล้ๆ อวัยวะเพศ เป็นต้น และพยายามอย่าให้อวัยวะเพศอับชื้น โดยเช็ดให้แห้งหลังเข้าห้องน้ำ ใส่กางเกงในที่ระบายอากาศได้ดี ไม่รัดแน่นจนเกินไป และกางเกงในควรซักให้สะอาด ตากแดดให้แห้ง เป็นต้น หากอาการคันไม่หายไป มีตกขาวมากขึ้น เป็นตกขาวตลอด หรือมีผื่น ตุ่มเกิดขึ้นที่อวัยวะเพศ ก็ควรไปพบแพทย์เพื่อรักษาค่ะ