มีเพศสัมพันธ์ ใช้ถุงยางอนามัย ประจำเดือนมาปกติ ตอนนี้มีเลือดออกกระปริบกระปรอย จะท้องไหม

 สวัสดีค่ะ คุณ P'Pam Siriyakorn,

                   การมีเพศสัมพันธ์โดยการใช้ถงยางอนามัย จะมีโอกาสตั้งครรภ์ได้ประมาณ 2%-18%

                   หากประจำเดือนได้มาแล้วในวันที่ 31 ก.ค.-5 ส.ค. แสดงว่าไม่มีการตั้งครรภ์เกิดขึ้นจากการมีเพศสัมพันธ์ในช่วงเดือน ก.ค.ค่ะ แต่หากหลังจากมีประจำเดือนมาแล้ว ได้มีเพศสัมพันธ์ ก็ย่อมมีโอกาสตั้งครรภ์ได้ค่ะ

                    สำหรับเลือดที่ออกมาในวันที่ 13 และ 15 ซึ่งไม่ใช่ช่วงที่ประจำเดือนควรจะมา เลือดดังกล่าว อาจเกิดจาก

                    1. เลือดออกช่วงไข่ตก เลือดจะออกในช่วงกึ่งกลางของรอบประจำเดือน คือประมาณวันที่ 13-15 นับจากวันแรกที่ประจำเดือนมา แต่จะออกเพียงแค่ 1 วัน หากออกนาน 2-3 วันแล้ว ก็ไม่น่าใช่

                 2. มีการอักเสบติดเชื้อในโพรงมดลูก แต่มักมีอาการตกขาวที่ผิดปกติ และปวดท้องน้อยร่วมด้วย  รวมถึงอาการเจ็บท้องน้อยเวลามีเพศสัมพันธ์ ปัสสาวะผิดปกติ มีไข้

                 3. ความผิดปกติที่มดลูกและรังไข่ เช่น เนื้องอกมดลูก มีติ่งเนื้อในโพรงมดลูก เยื่อบุโพรงมดลูกหนาตัวผิดปกติ มะเร็งเยื่อบุโพรงมดลูก มะเร็งรังไข่ มะเร็งปากมดลูก เป็นต้น

                  4.การทำงานผลิตฮอรโมนของรังไข่ผิดปกติ เช่น ภาวะที่มีถุงน้ำในรังไข่หลายใบ (PCOS) แต่มักมีประวัติการมีประจำเดือนผิดปกติมาก่อน 

                  5. ผลจากการใช้ยาฮอร์โมนต่างๆ เช่น ยาเม็ดคุมกำเนิด ยาสตรี สมุนไร อาหารเสริมต่างๆ รวมถึงยาบางอย่าง เช่น ยาป้องกันการแข็งตัวของเลือด ยาต้านเศร้า เป็นต้น

                 หากเลือดที่ออกมีปริมาณไม่มาก และเป็นเพียงแค่ 1-2 วัน อาจสังเกตเลือดที่ออกไปก่อน หากไม่ออกมาอีก ไม่มีปวดท้องน้อย ไม่มีตกขาว และประจำเดือนยังคงมาเป็นปกติ ก็อาจไม่จำเป็นต้องทำอะไร แต่หากเลือดที่ออกมีปริมาณมาก หรือมาแบบกะปริดกะปรอยอีกเรื่อยๆ หรือมีปวดท้องน้อย มีตกขาวที่ผิดปกติ ควรไปพบแพทย์เพื่อตรวจหาสาเหตุค่ะ