ถามแพทย์

  • มีเพศสัมพันธ์ 26 พ.ค. กินยาคุมฉุกเฉิน ประจำเดือนไม่มา ตรวจแล้วไม่ท้อง มีตกขาวมีกลิ่นออกมา

  •  Mi Ld
    สมาชิก
    ประจำเดือนมาล่าสุดวันที่13 พ.ค. แล้วช่วงประจำเดือนใกล้จะวันที่ 18 พ.ค. เริ่มมีอาการคัน น่าจะเกิดจากสาเหตุที่ไม่ค่อยได้เปลี่ยนผ้าอนามัย จากนั้นก็เริ่มรักษาความสะอาดจนมีความรู้สึกว่ามันเริ่มหายแล้ว จนวันที่ 26 พ.ค. ได้มีเพศสัมพันธ์แบบไม่ป้องกัน หลั่งนอก และกินยาคุมฉุกเฉินหลังจากนั้น 6-7 ชม. พอมาเดือน มิ.ย. ตอนนี้ประจำเดือนยังไม่มา แต่ตรวจไปแล้วหลังจากที่มันเลยกำหนดมา1อาทิตย์ก็ขึ้นขีดเดียว แล้วช่วงที่ผ่านก็มีเพศสัมพันธ์อยู่บ้าง(ป้องกันตลอด) แล้วก็มีอาการตกขาวเยอะ มีน้ำใสๆออกมาอีก มีกลิ่น และมีอาการคันเล็กน้อยกลับมา อยากทราบว่าเป็นผลกระทบจากอะไรคะ จากยาคุมฉุกเฉินที่กินไป หรือว่าเป็นเพราะความสะอาดคะ หรือมีสาเหตุนอกเหนือจากนั้น

    สวัสดีค่ะ คุณ Mi Ld,

                        หากได้มีเพศสัมพันธ์วันที่ 26 พ.ค. แล้วได้ทานยาคุมฉุกเฉินไป แต่หลังจากนั้น ยังไม่มีประจำเดือนมา หากได้ตรวจหาการตั้งครรภ์อย่างถูกต้องแล้ว พบขึ้นเพียง 1 ขีด ก็แสดงว่าไม่ได้มีการตั้งครรภ์เกิดขึ้น และการที่ประจำเดือนยังไม่มา ก็อาจเป็นผลของยาคุมฉุกเฉินได้ ควรรอประจำเดือนต่อไปก่อน ประจำเดือนก็น่าจะมาในที่สุดค่ะ อย่างไรก็ตาม หากยังคงไม่มา อาจต้องลองตรวจหาการตั้งครภรภ์ซ้ำดูอีก เนื่องจากได้มีเพศสัมพันธ์อีกเรื่อยๆ และถุงยางอนามัย ก็ไม่สามารถป้องกันได้ 100% ค่ะ

                        สำหรับการมีน้ำใสๆ ปริมาณมาก มีกลิ่น ไหลจากช่องคลอด คันเล็กน้อย แต่ไม่ได้มีแสบ เจ็บ ปวดช่องคลอด ไม่มีปวดท้องน้อย ก็น่าจะเกิดจากมีการอักเสบของช่องคลอดจากเชื้อแบคทีเรีย (bacterial vaginosis) ซึ่งปัจจัยที่อาจทำให้เกิด ได้แก่ เชื้อแบคทีเรียชนิดดี (lactobacilli bacteria) ลดลงจากสาเหตุต่างๆ เช่น ช่องคลอดมีความเป็นด่างจากการโดนหลั่งน้ำอสุจิบ่อยๆ หรือจากการสวนล้างช่องคลอดบ่อยไป หรือใช้สบู่หรือน้ำยาที่มีความรุนแรง หรือเกิดจากการทานยาปฏิชีวนะฆ่าเชื้อบ่อยๆ เป็นต้น

                         สำหรับการรักษา ก็คือควรหลีกเลี่ยงปัจจัยในการเกิดดังกล่าว แต่หากอาการเป็นมาก คือมีตกขาวมากและกลิ่นรุนแรง ก็ควรไปพบแพทย์เพื่อให้พิจารณาจ่ายยาปฏิชีวนะฆ่าเชื้อให้ทาน ทั้งนี้ เมื่อทานยา อาการก็จะหายไปได้ แต่ก็สามารถกลับมาเป็นได้อีก เมื่อมีปัจจัยต่างๆ เกิดขึ้น

                     นอกจากนี้ ตกขาวที่มีปริมาณมากและมีกลิ่น อาจเกิดจากสาเหตุอื่นๆ ได้อีก เช่น ติดเชื้อปรสิตในช่องคลอด ติดเชื้อหนองใน ติดเชื้อในมดลูก เป็นต้น หรือหากมีอาการคันช่องคลอดมาก ก็อาจมีการติดเชื้อราร่วมด้วย ซึ่งในกรณีนี้ ควรไปพบแพทย์เพื่อรักษาค่ะ