ตรวจพบไวรัสตับอักเสบบี การรักษา และตรวจเพิ่มเติมอย่างไร

สวัสดีค่ะ คุณShinjang Koong ผู้ป่วยไวรัสตับอักเสบบีที่จำเป็นต้องได้รับการรักษา ได้แก่ ผู้ป่วยที่มีลักษณะดังนี้ค่ะ

• มีผล HBsAg ให้ผลบวกเป็นเวลาไม่ต่ำกว่า 6 เดือน
• มีหลักฐานที่บ่งชี้ว่าไวรัสกำลังมีการแบ่งตัวอย่างมาก คือ HBeAg เป็นบวก ปริมาณไวรัสมากกว่าหรือเท่ากับ 20,000 IU/ml หรือ HBeAg เป็นลบ ปริมาณไวรัสมากกว่าหรือเท่ากับ 2,000 IU/ml
• ระดับเอนไซม์ค่าการอักเสบของตับ ALT มากกว่าหรือเท่ากับ 5 เท่าของค่าปกติ จากการตรวจ 2 ครั้ง ห่างกัน 3 เดือนขึ้นไป
• ไม่มีโรคอื่นที่เป็นสาเหตุหลักของตับอักเสบ

ผู้ป่วยไวรัสตับอักเสบบีเรื้อรัง สามารถเลือกใช้ยาได้หลายแบบ  ขึ้นอยู่กับปัจจัยของไวรัสบี ปัจจัยทางผู้ป่วย และระยะของโรค โดยยาที่ใช้รักษาไวรัสตับอักเสบบีเรื้อรังในปัจจุบันมีทั้งชนิดฉีดและชนิดรับประทาน ข้อดีข้อเสีย และอาการข้างเคียง แพทย์ผู้เริ่มการรักษาจะเป็นผู้ให้ข้อมูล เพื่อให้ผู้ป่วยร่วมในการตัดสินใจค่ะ สำหรับผู้ป่วยไวรัสตับอักเสบบีเรื้อรังที่ยังไม่มีข้อบ่งชี้ในการรักษา หรืออยู่ในช่วงที่ไวรัสไม่มีการแบ่งตัว อาจยังไม่จำเป็นต้องได้รับยาต้านไวรัส แต่ควรติดตามผลเลือดดูค่าการอักเสบของตับ เป็นระยะๆ ทุก 3-6 เดือน แนะนำให้เข้าปรึกษาแพทย์เฉพาะทางด้านโรคทางเดินอาหารและตับค่ะ ว่าจำเป็นต้องเริ่มการรักษาเลยหรือไม่ หากไม่จำเป็นจะสามารถทำอย่างไรในเรื่องของการสมัครงานได้บ้างค่ะ