ถามแพทย์

  • มีอาการปวดท้องน้อย จะไปตรวจภายใน ทางโรงพยาบาลบอกให้ตรวจการตั้งครรภ์ก่อนและรออีกหนึ่งอาทิตย์ เพราะอะไร

  •  Suphigorn Thiengboon
    สมาชิก
    คือเมื่อวันจันทร์วันที่ 10 กับ อังคารที่ 11 ก.พ. ปวดท้องน้อยตรงใต้สะดือ เวลาเดินก็ปวด ขยับก็ปวด ต้องทานยาพารา พอวันที่ 12 ก็ไม่ปวดแล้ว แต่วันนี้ (วันที่ 13) โทรไปโรงพยาบาลเพื่อจะถามว่า พรุ่งนี้หนูจะมานัดตรวจภายใน จะได้ไหมคะหรือว่าต้องจองคิวก่อน แล้วทางนั้นก็ถามว่าเคยตรวจที่นี้หรือเปล่าขอเลขบัตรโรงพยาบาลคะ พอให้เลขบัตร ทางนั้นก็พูดว่ามาตรวจครั้งสุดท้ายเมื่อ พ.ค.61 มาเอาห่วงคุมกำเนิดออกกับตรวจภายในหามะเร็งปากมดลูก แล้วตอนนี้อาการเป็นยังไงคะถึงจะตรวจภายใน ก็เลยบอกทางนั้นไปว่าหนูปวดท้องตรงใต้สะดือปวดแบบบิดมา 2 วัน คือวันที่ 10 กับ 11 ก.พ. แล้วทางนั้นก็ถามว่าประจำเดือนครั้งสุดท้ายมาวันที่เท่าไร ก็ตอบไปว่าวันที่ 25 ม.ค. แล้วทางนั้นก็บอกว่า อีก 2 วันให้ตรวจการตั้งครรภ์ด้วยตัวเองถ้าขึ้น 2 ขีดให้มาตรวจการตั้งครรภ์ แต่ถ้าขึ้น 1 ขีด แล้วยังปวดท้องอยู่ให้รอไปอีก 1 อาทิตย์ให้ครบเดือนก่อนแล้วตรวจใหม่ แต่ถ้าขึ้น1ขีด แล้วยังปวดอีกก็มาโรงพยาบาลมาเอาวันนัด ก็เลยสงสัยว่าทำไมถึงต้องให้ตรวจการตั้งครรภ์ (ที่จริงอยากจะตรวจภายในอยากรู้ว่าที่ปวดท้องเป็นอะไรหรือเปล่า) แล้ววันนี้วันที่ 13 ตอนห้าทุ่มอยู่ดีดีก็ปวดท้องใต้สะดือแต่เป็นด้านขวาปวดแบบบิดเกร็ง

    สวัสดีครับ คุณ Suphigorn Thiengboon

    คาดว่าทางโรงพยาบาลคงอยากให้มั่นใจก่อนว่าไม่มีการตั้งครรภ์นะครับ  อย่างไรก็ดี เนื่องจากอาการปวดท้องน้อยนั้น เป็นอาการปวดของอวัยวะที่อยู่ในบริเวณอุ้งเชิงกราน  หากเป็นในผู้หญิง ก็อาจจะสัมพันธ์กับการมีประจำเดือน หรือ เกิดจากสาเหตุเหล่านี้ได้ครับ

    1. ปวดเกร็งประจำเดือน

    2. มีถุงน้ำรังไข่

    3. เยื่อบุโพรงมดลูกเจริญผิดที่

    4. อุ้งเชิงกรานอักเสบ

    5. โรคอื่นๆ เช่น ลำไส้อักเสบ 

    หากอาการไม่ทุเลาจริงๆ ก็สามารถไปที่โรงพยาบาลได้เลยครับ เพราะโรคบางอย่างก็อาจจะรอไม่ได้ครับ จึงขอแนะนำพบคุณหมอนรีเวช เพื่อทำการตรวจวินิจฉัย และรักษาต่อไป จะดีที่สุดครับ