-
มีเพศสัมพันธ์ แล้วมีเลือดออกกะปริดกะปรอย แล้วมีประจำเดือนมา ปัสสาวะบ่อย กลั้นปัสสาวะไม่ได้ ควรกินยาหรือไม่
-
Dec 05, 2018 at 10:14 AM
วันที่1ธ.คมีเพศสัมพันธ์แล้วหลั่งนอกค่ะ ไม่มีอาการของคนท้องใดๆนอกจากปัสสาวะบ่อยและมีเลือดไหลกะปริบกะปรอยในวันที่2ธ.คค่ะแต่มีอาการแสบช่องคลอดแล้วเอานิ้วแหย่ดูพบว่ามีเลือดติดออกมา แล้วหลังจากนั้นประจำเดือนก็มาเลยค่ะ วันที่3ธ.คพบว่าปวดปัสสาวะเข้าห้องน้ำบ่อยมาก บางทีก็อั้นไม่อยู่ วันที่4ธ.คคิดว่าอาจจะเป็นโรคขัดเบาค่ะเพราะปัสสาวะบ่อยมาก+อั้นปัสสาวะไม่อยู่ ตอนนี้พยายามกินน้ำเยอะๆค่ะเพื่อให้ขับเชื้อโรคออกมาค่ะ อยากทราบว่านอกจากกินน้ำแล้วควรไปซื้อยาของโรคกระเพราะปัสสาวะอักเสบมากินร่วมด้วยได้มั้ยคะ?เพราะไปหาในเน็ตมาแล้วเขาบอกกินได้ก็หายค่ะDec 05, 2018 at 04:07 PM
รบกวนคุณหมอช่วยตอบหน่อยนะคะ ขอบคุณมากเลยค่ะ
Dec 05, 2018 at 06:41 PM
สวัสดีค่ะ คุณ THITIPHATNAJA,
หากประจำเดือนได้มาแล้ว โดยมาในช่วงวันที่ประจำเดือนควรจะมา และมานาน 2-7 วัน ก็ถือเป็นประจำเดือนที่ปกติ และแสดงว่าไม่มีการตั้งครรภ์เกิดขึ้นค่ะ
ส่วนอาการปัสสาวะบ่อย กลั้นปัสสาวะไม่ได้ น่าจะเกิดจากมีการติดเชื้อทางเดินปัสสาวะส่วนล่าง ซึ่งสาเหตุของเชื้อ ได้แก่
- เชื้อแบคทีเรียชนิดต่างๆ มักเกิดตามหลังการกลั้นปัสสาวะหรือดื่มน้ำน้อย รวมถึงหลังการมีเพศสัมพันธ์ นอกจากนี้ยังพบได้บ่อยในผู้สูงอายุ ผู้ที่มีโรคเบาหวาน มีนิ่วในกระเพาะปัสสาวะ มีเนื้องอกในกระเพาะปัสสาวะ หรือมีก้อนเนื้องอกที่มดลูกโตจนมาเบียดกระเพาะปัสสาวะ
- เชื้อจากโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ เช่น หนองในแท้ หนองในเทียม เริม ซึ่งนอกจากอาการปัสสาวะที่ผิดปกติแล้ว จะมีตกขาวที่ผิดปกติ และอาจมีไข้ อ่อนเพลียร่วมด้วย รวมถึงอาการเจ็บขณะมีเพศสัมพันธ์
ในเบื้องต้นแนะนำให้ดื่มน้ำเปล่ามากๆ เพื่อช่วยขับเชื้อโรคออกมา หลีกเลี่ยงการดื่มชา กาแฟ หรือแอลกอฮอล์ ไม่กลั้นปัสสาวะ หลีกเลี่ยงการมีเพศสัมพันธ์ไปก่อนชั่วคราว หากอาการไม่ดีขึ้น อาจทานยาปฏิชีวนะฆ่าเชื้อ เช่น นอร์ฟลอกซาซิน (norfloxacin) นาน 3-5 วัน หรือไปพบแพทย์เพื่อรับการรักษาค่ะ
-
ถามแพทย์
-
มีเพศสัมพันธ์ แล้วมีเลือดออกกะปริดกะปรอย แล้วมีประจำเดือนมา ปัสสาวะบ่อย กลั้นปัสสาวะไม่ได้ ควรกินยาหรือไม่