ถามแพทย์

  • ประจำเดือนหมดไป 1 สัปดาห์ มีเลือดออกนาน 3-5 วัน ปวดท้องน้อย มึนหัว เบื่ออาหาร ปวดเมื่อยตัว เป็นอะไร

  •  kaedsara Inkan
    สมาชิก
    สวัสดีค่ะ อยากสอบถามว่าเดือนนี้ประจำเดือนแล้วผ่านไป1สัปดาห์แล้วก็มีเลือดออกมาอีกเป็นสีแดงสดแล้วกลายเป็นสีน้ำตาลเข้มเป็นอยู่ประมาณ3-5วันแต่เลือดจะออกมาเฉพราะตอนเช้าของทุกวันเวลาตื่นนอนแล้วเข้าห้องน้ำพอหายแล้วมายกของหนักก็มีอาการปวดท้องน้อยแบบเป็นระยะแต่ไม่มีเลือดออก มีอาการมึนหัวเป็นช่วงๆ เบื่ออาหาร ปวดเมื่อยตัวแบบแปปเดียวก็หาย เป็นอาการของอะไรค่ะ พึ่งเลิกท่านยาคุมไป1เดือนค่ะ

    สวัสดีค่ะ คุณ kaedsara Inkan,

                        หากประจำเดือนหมดไป 1 สัปดาห์ แล้วเกิดมีเลือดออกมานาน 3-5 วัน ตามด้วยอาการปวดท้องน้อย อาจเกิดจาก 

                        1. มีการตั้งครรภ์แล้วมีภาวะแทรกซ้อนเกิดขึ้น เช่น แท้งคุกคาม เป็นต้น โดยหากหลังจากที่หยุดทานยาคุมกำเนิดไป ได้มีเพศสัมพันธ์ ก็จะมีโอกาสตั้งครรภ์ได้ และเลือดที่ออกก่อนหน้านั้น อาจไม่ใช่ประจำเดือนก็ได้ค่ะ 

                        2. มีการอักเสบติดเชื้อในโพรงมดลูก ซึ่งมักมีอาการปวดท้องน้อยและตกขาวที่ผิดปกติร่วมด้วย และอาจทำให้มีไข้ ปวดเมื่อยตัว อ่อนเพลียได้ 

                       3. มีโรคที่มดลูก เช่น เนื้องอกมดลูก มีติ่งเนื้อในโพรงมดลูก เยื่อบุโพรงมดลูกหนาตัวผิดปกติ มะเร็งเยื่อบุโพรงมดลูก มะเร็งปากมดลูก เป็นต้น

                       4. มีโรคในระบบอื่นๆ เช่น มีภาวะเกร็ดเลือดต่ำ ภาวะไทรอยด์ฮอร์โมนผิดปกติ เป็นต้น แต่ก็จะต้องมีอาการผิดปกติอื่นๆ ร่วมด้วย

                        5. ผลจากการใช้ยาฮอร์โมนอื่นๆ เช่น ยาสตรี สมุนไพร อาหารเสริมต่างๆ เป็นต้น    

                        หากหลังจากที่หยุดทานยาคุมกำเนิด ได้มีเพศสัมพันธ์ แนะนำควรลองตรวจหาการตั้งครรภ์ดูก่อนค่ะ หากตรวจไม่พบ แล้วยังคงเกิดมีเลือดไหลอีก  หรือไม่มีเลือดแล้ว แต่ยังคงเกิดอาการปวดท้องน้อยขึ้นบ่อยๆ อีก  ก็ควรไปพบสูติ-นรีแพทย์เพื่อตรวจหาสาเหตุและรักษาค่ะ