ถามแพทย์

  • แพทย์แจ้งว่าเป็นไวรัสลงกระเพาะ แต่ได้รับยาปฏิชีวนะมาทาน ควรจะทานหรือไม่

  •  PT Prin
    สมาชิก
    ดิฉันอายุ 33 ปี ค่ะ มีอาการ ดังนี้ เมื่อวันที่ 27/04/21 ที่ผ่านมาอยู่ๆ ก็รู้สึกหายใจไม่ทั่วท้อง อยากถ่ายท้อง ตัวชา เหมือนมีก้อนจุกที่คอ สักพัก พอเลอ ออกมาลูกใหญ่ก็ดีขึ้น วันต่อมายังรู้สึกเหมือนมีน้ำขมเอ่อๆ ที่คอ แต่ไม่แสบร้อนกลางอก หรือปวดท้องใดๆ จนดีขึ้นตามลำดับ แต่อยู่ๆ เมื่อวันที่ 03/05/21 ตกเย็นเกิดอาการถ่ายเหลว 3-5 ครั้ง แต่ไม่ถึงขั้นเป็นน้ำ เริ่มกินข้าวไม่ได้ ไม่อยากอาหาร เป็นๆ หายๆ กินได้บ้างแต่น้อย หายใจไม่อิ่ม เริ่มรู้สึกเจ็บจี๊ดๆ ในท้องน้อยใต้สะดือด้านซ้าย แต่ไม่ซ้ายมากเกือบๆ ถึงกลางท้อง และเมื่อวันที่ 05/05/21 ตื่นเช้ามาอยู่ๆ ก็เป็นไข้ หนาวสั่น แต่มีเหงื่อออกเยอะมาก มีอาการหายใจไม่อิ่มร่วมด้วย ช่วงเย็นจึงตัดสินใจไปพบแพทย์ ที่ รพ.เอกชน แห่งหนึ่ง หลังจากที่คุณหมอฟังอาการ เคาะท้อง กดท้อง วัดออกซิเจนในเลือดได้ 100% จึงส่งไปตรวจเลือด ผลออกมาคุณหมอแจ้งว่า ทุกย่างปกติ ตับอะไรต่างๆ ปกติ ค่าแบคทีเรียก็ไม่มี แต่พบว่าค่าไวรัส แสดงอยู่ที่ 7,500 ซึ่งวินิจฉัยว่า อาจเป็นไวรัสลงกระเพาะ จึงได้รับยามาจำนวนหนึ่ง เกี่ยวกับการปรับลำไส้ ลดกรด และยาปฏิชีวนะ ชื่อ ciprofloxacin มาทาน ซึ่งเมื่อทานยามื้อแรก ก็ดีขึ้นมาก หายใจได้สะดวกขึ้น อยากอาหารมากขึ้น แต่มีท้องเสียอยู่ 2 ครั้ง แต่จากที่อ่านเรื่องไวรัสลงกระเพาะจากเว็บไซร์ แจ้งว่าไม่ควรกินยาปฏิชีวนะ ดิฉันควรทำอย่างไรคะ ขอกราบขอบพระคุณล่วงหน้า ที่ตอบคำถามค่ะ
    PT Prin  พญ.นรมน
    สมาชิก

     สวัสดีค่ะคุณ PT Prin

    ในที่นี้ที่ได้ยา 3 ชนิดคือยาปรับลำไส้ ยาลดกรด และยาปฏิชีวนะมารับประทานนั้น อาจจะหมายถึงว่าเป็นการตรวจเจอ เชื้อ H. Pylori (Helicobacter Pylori) หรือเชื้อเอชไพโลไร เป็นเชื้อแบคทีเรียชนิดหนึ่ง เมื่อเข้าสู่ร่างกายจะอาศัยอยู่ภายในระบบทางเดินอาหาร มักไม่ก่อให้เกิดอันตราย แต่ในบางกรณีการติดเชื้อชนิดนี้อาจส่งผลให้เกิดแผลในกระเพาะอาหารและลำไส้ และอาจกลายเป็นมะเร็งกระเพาะอาหาร

    แนะนำการรับประทานยาให้ครบตามที่แพทย์สั่ง เพราะการตรวจเจอเชื้อที่ชัดเจน แพทย์น่าจะได้จ่ายยาที่ครอบคลุมเชื้อนั้นๆมาให้แล้ว พร้อมกลับไปติดตามอาการหลังการรักษาจนครบต่อไป ถ้ายังมีอาการเป็นมากขึ้น ปวดท้องมาก อืดท้อง ทำให้กินได้น้อยผิดปกติ อาจจะกลับไปพบแพทย์ก่อนนัดได้