ถามแพทย์

  • อายุ 26 ปี ถ่ายเหลวติดต่อมา 2-3 เดือน ปวดท้อง มีลมในท้อง วันนี้มีเลือดปน เป็นโรคอะไร

  • อายุ 26ครับ แต่เป็นคนลำไส้ไม่ค่อยดี

    คือผมถ่ายเหลวมาประมาน 2-3เดือนแล้ว มีปวดท้องบ้าง มาวันนี้ถ่ายเหลวเหมือนเดิมแต่มีเลือดปน ออกมาสีแดง มันเป็นอาการของโรคอะไรหรอครับ  พักหลังๆคือมีส้มในท้องบ่อย ตดบ่อย 

    สวัสดีค่ะ คุณ เอกลักศณ์ นิเทศมินท์,

                         หากมีอาการถ่ายเหลวมา 2-3 เดือน ถือเป็นอาการท้องเสีแบบเรื้อรัง ซึ่งอาจเกิดจาก

                      - เป็นโรคลำไส้อักเสบเรื้อรัง ทำให้มีอาการปวดท้อง ท้องเสียบ่อย อุจจาระมีมูก หรือเลือดปน อาจมีไข้ได้ คลื่นไส้ อ่อนเพลีย เบื่ออาหาร น้ำหนักลด เป็นต้น

                      - การใช้ยาปฏิชีวนะบางชนิดอย่างต่อเนื่อง ยารักษาโรคเก๊าท์ ผลข้างเคียงจากการได้รับยาเคมีบำบัดหรือฉายรังสีเพื่อรักษาโรคมะเร็ง

                      - การติดเชื้อพยาธิในลำไส้

                      - โรคลำไส้แปรปรวน จะทำให้มีอาการไม่สบายท้อง แน่นท้อง ท้องอืด  มีแก๊สในทางเดินอาหารมาก ปวดท้องมากหลังรับประทานอาหาร และอาการจะดีขึ้นหลังการขับถ่าย มีท้องผูก หรือท้องเสีย หรือท้องผูกสลับกับท้องเสีย อุจจาระไม่สุด อุจจาระมีเมือกใสหรือสีขาวปนออกมา กลั้นอุจจาระไม่อยู่ และอาจพบอาการอื่น ๆ ร่วมด้วย เช่น อ่อนเพลีย หมดแรง ปวดหลัง กลั้นปัสสาวะไม่อยู่ เป็นต้น

                     - มะเร็งลำไส้ใหญ่และทวารหนัก อาการเช่น ปวดท้องเรื้อรัง เบื่ออาหาร น้ำหนักลด ถ่ายเป็นเลือด เป็นต้น

                      ทั้งนี้ แม้ว่าบางสาเหตุจะไม่ได้ทำให้มีถ่ายเป็นเลือด แต่หากมีอาการถ่ายเหลวเรื้อรัง ก็อาจทำให้เกิดริดสีดวงทวารหนักขึ้น และทำให้มีถ่ายเป็นเลือดได้

                       แนะนำว่าควรไปพบอายุรแพทย์ทางเดินอาหารเพื่อตรวจวินิจฉัยว่าเกิดจากโรคอะไร จะได้รักษาให้ตรงกับสาเหตุค่ะ ในเบื้องต้น ก็ควรพยายามเลือกทานอาหารที่สะอาด ปรุงสุกใหม่ ไม่ทานอาหารรสจัด ลดอาหารประเภท นม เนย ชีส ช็อกโกแลตข้าวสาลี ของทอด อาหารที่มีไขมันสูง น้ำอัดลม ชา กาแฟ เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ลดของหวานต่างๆ ไม่ทานน้ำตาลมากไป และไม่ควรทานน้ำตาลเทียมทุกชนิด เป็นต้น