กินยาต้านมาตั้งแต่อายุ 11 ปี ช่วง 2-3 สัปดาห์ กินยาแล้วมีอาการเจ็บหน้าอก หายใจไม่ค่อยออก แพ้ยาไหม

สวัสดีค่ะ คุณ Sunanta Kanrapapruek,

                       หากยาที่ทานอยู่ประจำนั้น ทานมาเป็นระยะเวลานานมากแล้ว ต่อมามีอาการเจ็บหน้าอก หายใจไม่ค่อยออก ก็ไม่น่าเกิดจากผลของยาที่ทาน และไม่ใช่อาการของการแพ้ยา เพราะโดยปกติ อาการของการแพ้ยา มักทำให้มีผื่นขึ้น คันตามตัว หรือเกิดปากบวม หน้าบวม หายใจลำบาก หายใจมีเสียงดัง เป็นต้น และอาการแพ้ยา ก็จะเป็นตั้งแต่ช่วงแรกๆ ที่เริ่มทานยาค่ะ ดังนั้น อาการที่เป็นอยู่จึงน่าจะเกิดจากสาเหตุอื่นๆ เช่น 

                      - การบาดเจ็บของกล้ามเนื้อผนังทรวงอก

                 - มีน้ำในช่องเยื่อหุ้มปอด นอกจากอาการหายใจลำบาก เจ็บหน้าอก ก็จะมีอาการเหนื่อยง่าย หายใจเร็ว ไอ สะอึก นอนราบไม่ได้ เป็นต้น

                 - ช่องเยื่อหุ้มปอดมีอากาศ แต่จะมีอาการเหนื่อยร่วมด้วย

                  - เยื่อหุ้มปอดอักเสบ มักทำให้มีอาการเจ็บหน้าอก โดยจะเป็นแบบเจ็บแปล๊บๆ โดยจะเจ็บมากขึ้นเมื่อหายใจเข้าและออกลึกๆ รวมถึงมีการอาการเหนื่อย หายใจไม่อิ่ม

                  - ปอดอักเสบ แต่นอกจากจะทำให้เหนื่อยง่าย หายใจลำบากแล้ว มักมีไข้ ไอมาก มีเสมหะมากร่วมด้วย

                  - โรคหัวใจต่างๆ เช่น โรคหลอดเลือดหัวใจตีบ เยื่อหุ้มหัวใจอักเสบ กล้ามเนื้อหัวใจอักเสบนอก เป็นต้น

                  - กรดไหลย้อน แต่จะมีอาการอื่นร่วมอีก คือ ปวดแสบร้อนหรือจุกบริเวณลิ้นปี่และหน้าอก อาหารไม่ย่อย เรอบ่อย มีน้ำรสเปรี้ยวหรือขมในคอ เจ็บคอ ระคายเคืองคอ เป็นต้น

                   - การมีความเครียด และวิตกกังวล

                    หากอาการเป็นต่อเนื่องยังไม่ดีขึ้น ก็ควรไปพบแพทย์เพื่อตรวจวินิจฉัยหาสาเหตุและรักษาค่ะ ไม่ควรหยุดทานยาไปเอง ส่วนในเบื้องต้น ก็ควรงดการทำงานหนักต่างๆ ไปก่อน นอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ ไม่ดื่มชา กาแฟ น้ำอัดลม และแอลกฮอล์ เลือกทานอาหารที่ย่อยง่าย รสไม่จัด เป็นต้น